เป็นอันรู้กันว่า โลกใบนี้มันช่างกว้างใหญ่ไพศาลนัก ซึ่งในแต่วินาที มันก็มักจะมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายรอบๆตัวเรา ทั้งใกล้และไกลตัว
บางเรื่องก็เป็นเรื่องปรกติธรรมดาทั่วไป หรือมันเป็นเรื่องราวในชีวิตประจำวันอันแสนน่าเบื่อของเรา อันนี้เชื่อว่า คุณและผมก็ต้องเจอะเจอทุกวันอยู่แล้ว มันก็ไม่ได้น่าสนใจอะไร
แต่ในอีกด้านหนึ่ง มันก็มักจะมีเรื่องราวอันแสนประหลาด ลึกลับ และมันน่าเหลือเชื่อ เรื่องพวกนี้บางทีผู้เชี่ยวชาญหลายๆแขนงก็ยังไม่สามารถค้นหาคำตอบได้
ว่ามันคืออะไร มันเกิดขึ้นได้อย่างไร และทำไมมันจึงเกิดขึ้นมา
อ่ะ...เกริ่นมาขนาดนี้ ชักน่าสนใจกันแล้วใช่ไหมครับ ฮ่าาา...
เอาเป็นว่า วันนี้เรามาทิ้งเรื่องราวอันแสนน่าเบื่อรอบๆตัว แล้วมานั่งอ่านเรื่องราวลึกลับเหล่านั้นไปพร้อมๆกันกับผมกันดีกว่า เผื่อชีวิตจะได้มีอักด้านที่ไม่น่าเบื่อกันบ้าง ไปกัน...
อันดับที่ 10 The taos hum เสียงฮัมพิศวง
‘Taos Hum’ เป็นเสียงความถี่ต่ำที่มีผู้คนได้ยินในหลายสถานที่ทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และยุโรปเหนือ โดยปกติจะได้ยินเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ
และมักอธิบายว่ามีเสียงคล้ายๆกับเครื่องยนต์ดีเซลที่ลอยมาจากสถานที่ห่างไกล
เสียงเหล่านี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าตรวจไม่พบด้วยไมโครโฟนหรือเสาอากาศ VLF และแหล่งที่มาและธรรมชาติของมันยังคงเป็นปริศนา
ซึ่งในปี 1997 สภาคองเกรสได้สั่งให้บรรดานักวิทยาศาสตร์และผู้สังเกตการณ์จากสถาบันวิจัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศ ทดลองตรวจสอบเสียงความถี่ต่ำที่แปลกประหลาดที่ได้ยินโดยผู้อยู่อาศัยใน และรอบๆ เมืองเล็กๆ ของเทาส์ รัฐนิวเม็กซิโก
เป็นผ่านไปหลายปีที่บรรดาผู้ที่ได้ยินเสียงดังกล่าวซึ่งมักเรียกกันว่า "เสียงฮัม" ต่างเฝ้าค้นหาคำตอบ แต่จนถึงทุกวันนี้ยังไม่มีใครทราบสาเหตุของเสียงฮัม ว่ามันคือเสียงอะไร และมันเกิดขึ้นมาจากที่ไหนกันแน่....
อันดับที่ 9 Black dahlia ปริศนาฆาตรกรรมสยองศพสองท่อน
ในปี 1947 ร่างของเอลิซาเบธ ชอร์ตวัย 22 ปี ถูกพบเป็นศพในลานจอดรถในลอสแองเจลิส โดยสภาพศพของเธอแลดูสยดสยองมาก เพราะร่างของเธอถูกตัดขาดออกจากกันเป็นสองท่อน!!
เธอถูกหั่นเป็นสองท่อน ตั้งแต่เอวลงมา และร่างกายก็แห้งกรังไม่มีเลือด อีกทั้งในกระเพาะอาหารก็เต็มไปด้วยอุจจาระ ซึ่งเป็นไปได้ว่าเธอจะถูกบังคับให้กินก่อนจะถูกฆ่า
ที่น่าสยองที่สุด คือปากของเธอถูกเฉือนเป็นทางยาวไปจนถึงหูทั้งสองข้าง เหมือนคนกำลังยิ้ม ซึ่งดูน่าสยอง....
เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาตรวจสอบและสืบหาว่าผู้ตายเป็นใคร ซึ่งโชคดีที่มีบันทึกลายนิ้วมือของเธอ ซึ่งเคยใช้สมัครงาน อีกทั้งยังเคยมีการพิมพ์ลายนิ้วมือของเธอและมีการถ่ายรูปเธอ เก็บไว้ในแฟ้มตำรวจ เนื่องจากเธอเคยถูกจับข้อหาดื่มเหล้าทั้งๆ ที่อายุไม่ถึงเกณฑ์
เรื่องราวของคดีฆาตกรรมรายนี้โด่งดังสุดๆ เป็นที่สนใจของสื่อมวลชน มีการขุดคุ้ยเรื่องราวของ เธอมากมาย โดยจากการสืบสวนนั้น พบว่าเธอเป็นหญิงเสน่ห์แรง ในช่วงเวลาประมาณสองเดือนก่อนที่จะถูกฆ่า มีคนพบเห็นเธออยู่กับชายหนุ่มไม่ซ้ำหน้า ไม่ต่ำกว่า 25 คน
ด้วยความที่เธอแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีดำทั้งตัว สื่อมวลชนจึงเรียกเธอว่า “Black Dahlia” (ดอกรักเร่สีดำ )และมีข่าวลือว่าเธอเป็นโสเภณีอีกด้วย
การสืบสวนนั้นไม่มีความคืบหน้า ตำรวจไม่สามารถหาตัวฆาตกรได้ ที่ใกล้เคียงที่สุดก็คงจะเป็นสื่อหนังสือพิมพ์ที่ได้รับโทรศัพท์จากบุคคลที่อ้างว่าเป็นฆาตกร และได้ส่งสิ่งของต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเธอ มาให้ดูเป็นการยืนยัน ไม่ว่าจะเป็นใบเกิด นามบัตร ภาพถ่ายต่างๆ ทะเบียนบ้าน และยังมีจดหมายที่ตัดแปะด้วยตัวอักษรในหนังสือพิมพ์ ส่งมาให้หนังสือพิมพ์
แต่ทว่าตัวอักษรในจดหมายที่ตัดมาจากหนังสือพิมพ์นั้นถูกทำความสะอาดด้วยน้ำมันเบนซิน จึงทำให้ไม่สามารถตรวจสอบลายนิ้วมือได้
ตำรวจได้พยายามตามสืบว่าใครคือฆาตกรที่แท้จริง และตลอดเวลาก็ได้รับแจ้งข่าวว่าพบฆาตกรตัวจริงแล้วกว่า 60 ราย หากแต่ก็ไม่สามารถไขคดีได้อย่างแท้จริงจนถึงทุกวันนี้
นับเป็นเรื่องราวที่แสนลึกลับ และถูกจัดให้อยู่ในหมวดคดีลึกลับที่ยังไม่สามารถหาคำตอบได้
คดีนี้โด่งดังจนกระทั่งถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดในปี 2006 และมีดารานำแสดงที่มีชื่อเสียงมากมาย ลองไปหาชมกันดูได้นะครับ
อันดับที่ 8 Comte de Saint Germain นักเล่นแร่แปรธาตุผู้ลึกลับ
Comte de Saint Germain เป็นหนึ่งในบุคคลที่ลึกลับที่สุดในประวัติศาสตร์ มีข่าวลือและตำนานมากมายที่เกี่ยวข้องกับชื่อของเขา Comte Saint Germain เป็นนักวิทยาศาสตร์และนักไสยศาสตร์ซึ่งอาศัยอยู่ในยุโรปช่วงกลางศตวรรษที่18 เขารักการเดินทาง แถมยังชื่นชอบในการทำการทดลองมากมาย มีตำนานมากมายเกี่ยวกับชีวประวัติของเขา นักประวัติศาสตร์สมัยใหม่ยังไม่สามารถหาข้อมูลที่แท้จริงเกี่ยวกับเขาได้เพียงพอ
Comte de Saint Germain เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ นักทำนาย ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์คาถาอาคม ชอบเดินทาง ไม่มีใครทราบวันเดือนปีเกิดที่แน่นอนของเขา ซึ่งในช่วงนั้นเขาได้รับใช้พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 แห่งฝรั่งเศสด้วยความเคารพและไว้วางใจ เขารู้มากกว่าหนึ่งภาษา เขาพูดภาษาอาหรับและฮีบรูได้คล่อง เขาเป็นคนรอบรู้ ชอบประวัติศาสตร์และเคมี ทำการทดลองหลายครั้งซึ่งผลที่ได้ทำให้ประชาชนประหลาดใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า....
ท้ายที่สุดเราก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเขาผู้นี้คือใคร ชีวประวัติของบุคคลนี้ได้รับการกล่าวขานจนกลายเป็นตำนาน เป็นตัวละครที่ลึกลับที่สุดในศตวรรษที่ 18 มันยังคงเป็นปริศนาว่าเขาเกิดที่ไหน แม้ว่านักวิทยาศาสตร์มีแนวโน้มที่จะเชื่อว่าต้นกำเนิดของเขาน่าจะเป็นชาวยิวโปรตุเกส แต่จนที่สุดก็ยังไม่ได้รับคำตอบว่าเขาผู้นี้คือใคร และยังคงเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้
อันดับที่ 7 Voynich manuscript ตำราปริศนาอันแสนลึกลับ
Voynich manuscript หรือ ตำราวอยนิช เป็นหนังสือโบราณจากยุคกลางของยุโรป ซึ่งเขียนด้วยรหัสลึกลับที่ไม่มีนักภาษาศาสตร์หรือนักคณิตศาสตร์คนใดจะแปลความหมายออกได้มานานกว่า 600 ปี
โดยบรรดาผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรสำคัญต่างๆ ทั่วโลก แม้แต่เอฟบีไอและนักถอดรหัสอัจฉริยะก็ไม่สามารถจะไขปริศนาของตำราโบราณนี้ได้ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าตำราวอยนิชอาจเป็นเพียงของปลอมที่ทำขึ้นเองโดยพ่อค้าและนักสะสมของโบราณชาวโปแลนด์ ซึ่งเป็นผู้ค้นพบหนังสือเล่มนี้เมื่อปี 1912
อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจหาอายุด้วยคาร์บอนกัมมันตรังสีพบว่า ตำราวอยนิชนั้นเป็นของเก่าที่ถูกเขียนขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 15 และในปี 2018 ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอัลเบอร์ทาของแคนาดา ได้พยายามใช้โปรแกรมปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอถอดรหัสตำราวอยนิช จนพบว่าตำรานี้ถูกเขียนขึ้นด้วยภาษาที่มีความคล้ายคลึงกับภาษาฮีบรูของชาวยิวเป็นอย่างมาก...
อย่างไรก็ตาม รายละเอียดที่น่าฉงนของภาพประกอบได้ก่อให้เกิดทฤษฎีมากมายเกี่ยวกับที่มาของหนังสือ เนื้อหาของหนังสือ และจุดประสงค์ของหนังสือเล่มนี้ เอกสารประกอบด้วยภาพประกอบที่แนะนำว่าหนังสือเล่มนี้แบ่งออกเป็น 6 ส่วน ได้แก่ สมุนไพร ดาราศาสตร์ ชีวภาพ จักรวาลวิทยา เภสัชกรรม และตำรับอาหาร
แม้ในปัจจุบันจะมีคนค้นพบและตีความตำรานี้ได้ แต่มันก็ยังคงเป็นหนึ่งในวัตถุแห่งประวัติศาสตร์ที่ยังคงเป็นปริศนาลึกลับจนถึงวันนี้ว่า ใครคือผู้เขียนและเขียนเพื่ออะไร?
อันดับที่ 6 The Zodiac Killer แฟ้มลับคดีดัง นักฆ่าจักรราศีZodiac Killer หรือ “นักฆ่าจักรราศี” เป็นที่รู้จักกันดีถึงคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาในช่วงปลายยุค 60 และเป็นปริศนามายาวนานกว่า 50 ปีกับ เขาสร้างชื่อให้ตัวเองจากการส่งจดหมายไปยังสำนักพิมพ์ต่างๆ โดยในเนื้อความมักอ้างความรับผิดชอบว่าคนที่ก่อคดีอย่างอุกอาจคือตัวเขาเอง พร้อมทั้งยังเขียนยกยอตัวเองว่ามีฝีมืออันแยบยล และตำรวจนั้นช่างไร้ความสามารถ นอกจากเนื้อหาดังกล่าวในจดหมายแต่ละฉบับจะปรากฏสัญลักษณ์หนึ่งที่มีลักษณะเป็นวงกลมและมีกากบาทขีดฆ่าทั้งในแนวตั้งและแนวนอน ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่านี่เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึง “Zodiac Killer”
นักฆ่าจักรราศีคงไม่โด่งดังกระฉ่อนขนาดนี้หากในจดหมายที่เขาส่งมาไม่ได้มีการแนบอักษร Cryptogram ที่เป็นการเขียนโดยใช้อักษรลับ ต้องมีการถอดรหัสจึงจะสามารถเข้าใจสิ่งที่เขาอยากจะสื่อได้
โดยคดีแรกของฆาตกรต่อเนื่องรายนี้เริ่มขึ้นในวันที่ 20 ธันวาคม 1968 เมื่อเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย เบตตี้ ลู เจนเซ่น (Betty Lou Jensen) และ เดวิด ฟาราเดย์ (David Faraday) ถูกชายนิรนามสาดกระสุนไปยังรถที่พวกเขานั่งอยู่ โดยตำรวจเชื่อว่าจุดประสงค์ของการกราดยิงนั้นก็เพื่อให้เหยื่อตกใจและหนีออกมานอกตัวรถ ก่อนที่ฆาตกรจะยิงทั้งคู่จนเสียชีวิต โดยไม่มีใครสามารถสืบทราบถึงแรงจูงใจของฆาตกรได้....
“นักฆ่าจักรราศี” อ้างว่าเขาได้ทำการฆาตกรรมเหยื่อไปแล้วถึง 37 ราย และการสืบหาตัวเขายังถือว่าเป็นงานยากสำหรับคนทุกฝ่าย แม้ล่าสุด “The Case Breakers” กลุ่มของนักสืบนักกฎหมายนอกราชการกว่า 40 คน ได้ออกมาเปิดเผยสิ่งที่อาจเป็นผลดีต่อรูปคดีว่า พวกเขาสามารถไขปริศนาได้แล้วว่าตัวตนของ Zodiac Killer ภายใต้ภาพวาดชายสวมแว่นอันโด่งดังแท้จริงแล้วคือใคร พวกเขาเผยว่าตัวตนที่แท้จริงของฆาตกรรายนี้มีชื่อว่า แกรี่ ฟรานซิส โพสต์ (Gary Francis Poste) แต่เขาเสียชีวิตไปแล้วในปี 2018 หลังจากนั้นสำนักข่าว CNN ได้พยายามติดต่อไปยังญาติของแกรี่แต่ความพยายามดังกล่าวเป็นอันต้องสูญเสียไป
นักฆ่าจักรราศี ไม่เคยถูกจับตัวได้เลยตั้งแต่เขาก่อคดีในปี 1968 ก่อนจะหายตัวไปอย่างลึกลับในปี 1974 โดยทาง FBI ยังคงมั่นใจว่าเขายังลอยนวลอยู่ และจะพยายามสืบหาตัวคนร้ายเพื่อมารับโทษทางกฎหมายให้ได้ต่อไป ถือว่ายังเป็นคดีปริศนาอันแสนจะลึกลับอันดับต้นๆของโลกจนถึงทุกวันนี้
โดยเรื่องราวความลึกลับของคดีนี้ได้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนจร์ฮอลลีวู้ดในปี 2007 และมีดารานำแสดงรวมทั้งผู้กำกับชื่อดังร่วมกันสร้างผลงานชิ้นโบว์แดงขึ้นมาให้เราได้รับชม ลองไปหาดูกันได้นะครับ
จบพาร์ทแรกที่อันดับ 6 นะครับ ไปอ่านต่อ อันดับที่ 1-5 กันได้ในพาร์ทต่อไปครับ