อันดับที่ 5 Mount Baldy ’s Mysterious Holes
หลุมลึกลับแห่งเขาบาลดี้...
Mount Baldy หรือแปลเป็นไทยว่า ภูเขาหัวล้าน เป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ในมณฑลซานดิโอ, แคลิฟอร์เนีย, สหรัฐอเมริกามีความยาวประมาณ 12 ไมล์ (19 กิโลเมตร)เป็นที่นิยมของคนในพื้นที่และคนสหรัฐที่จะมาพักผ่อนหย่อนใจ หรือเดินสำรวจ...
แต่ปีใน 2013 ได้เกิดเรื่องแปลกประหลาดขึ้น เมื่อเด็กชายอายุ 6 ขวบชื่อว่า Nathan Woessner กำลังทำการสำรวจเนินทรายบนภูเขาหัวล้าน ในขณะที่เขากำลังเดินไปนั้น จู่ๆก็เกิดหลุมทรายดูดขึ้นมาอย่างไม่ทันระวังตัว ทำให้เขาถูกดูดลงไปใต้พื้นทรายความลึกกว่า 3 เมตร ...
กว่า 3 ชั่วโมงที่เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำตัวของเขาออกมาจากใต้พื้นทรายได้ เขาถูกนำตัวไปรักษายังโรงพยาบาล โชคยังดีที่เขาปลอดภัย....
Nathan Woessner ที่ถูกดูดลงใต้โลก
นักธรณีวิทยา รู้สึกงงงันกับปรากฏการณ์ที่ภูเขาหัวล้าน ซึ่งเป็นภูมิทัศน์ที่ทำจากทรายซึ่งไม่ได้สร้างอากาศที่มีเงื่อนไขจำเป็นสำหรับการเกิดหลุมยุบ หรือ ทรายดูด ขนาดใช้เรด้าห์ตรวจจับก็ยังไม่พบช่องว่างที่จะทำให้เกิดหลุม แต่มันก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง....
ทางรัฐบาลจึงทำการปิดอุทยาน ห้ามใครเข้าไปยังพื้นที่นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เพื่อความปลอดภัยของชีวิตผุ้คน ที่อาจจะถูกทรายดูดลึกลับมาคร่าชีวิตพวกเขาไป...และจนถึงบัดนี้ นักวิทยาศาสตร์ก็ยังคงสรุปไม่ได้ว่า เจ้าหลุมยุบพวกนี้ มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร....
อันดับที่ 4 Devil ' s Sinkhole
หลุมของปิศาจที่รัฐเท็กซัส
หลุมของปิศาจ เป็นหลุมขนาดใหญ่ที่ข้างใต้เป็นห้องใต้ดินขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ใน Edwards County รัฐ Texas มีขนาดปากหลุมประมาณ 15 เมตร (50 ฟุต) เบื้องลึกลงไปจะเป็นถ้ำขนาด 106 เมตร (350 ฟุต) ซึ่งมันเป็นที่อยู่อาศัยของค้างคาวมากกว่า 3 ล้านตัว ปัจจุบันนี้ได้เปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว โดยที่เราสามารถเดินทางไปเยี่ยมชมหลุมนี้ได้....
ประวัติศาสตร์ของที่นี่ถูกปกคลุมไปด้วยความลึกลับ บ้างก็ว่าถ้ำถูกถล่มโดยพวกนักล่าสมบัติ โดยพบว่าหลุมนี้กำเนิดมายาวนานกว่า 4000-2500 ปีก่อน ต่อมามันถูกใช้เป็นที่พักพิงสำหรับกลุ่มคาวบอยที่กำลังจะเดินทางไปทางทิศตะวันตกบนหลังม้า ประวัติศาสตร์อันยาวนานของที่นี่ถูกทำลายลงเมื่อผู้ผลิตปุ๋ยแอมโมเนียเริ่มเข้ามาเก็บเกี่ยวขี้ค้างคาวจากในถ้ำ ซึ่งได้ทำถ้ำเกิดความเสียหาย และหลักฐานหลายๆอย่างได้ถูกทำลายลงไป....
ไปต่อกันที่อันดับต่อไป...
อันดับที่ 3 The Sawmill Sink
อ่างล้างมือของโรงเลื่อย แห่ง บาฮามาส
The Sawmill Sink หรือ แปลเป็นไทยแบบตรงๆว่า "อ่างล้างมือของโรงเลื่อย" เป็นหลุมสีน้ำเงินอีกหลุมหนึ่งที่ถูกค้นพบในบาฮามาส โดยมมันมีความสำคัญทางวิทยาศาสตร์มากกว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เพราะมันเป็นที่ตั้งของการขุดค้นทางโบราณคดีที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ในระยะตลอด 1,000 ปีที่ผ่านมา....
ภาพแสดงถึงซากที่ค้นพบและสภาพใต้หลุม
น่าแปลกที่หลุมแห่งนี้ แม้จะเป็นหลุมบนพื้นดินแต่มันกลับไม่เคยแห้งเลยแม้สักปีเดียว โดยที่มันจะมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา แล้วหลุมก็เต็มไปด้วยน้ำอยู่เสมอ ซึ่งทำให้มันสามารถรักษาซากกระดูกที่ถูกซ่อนตัวอยู่ที่นั่น...
ซากฟอสซิลที่พบมี ตั้งแต่ซากของเต่ายักษ์ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์คิดว่ามันไม่ได้อาศัยอยู่ในพื้นที่เช่นเดียวกับ สัตว์ประเภทอื่นๆในพื้นที่นี้ และแม้แต่ซากของพืชสีเขียวที่มันยังเก็บคลอโรฟิลอย่างสมบูรณ์เอาแบบไว้
และที่น่าสนใจมากที่สุด ก็คือซากของจระเข้ยักษ์ที่นักวิจัยเชื่อว่ามันถูกฆ่าตายโดยคนในพื้นที่....
หลุมสีฟ้าแห่งนี้ยังถือว่า เป็นที่เก็บสะสมซากของบรรดาสิ่งมีชีวิตที่เก่าแก่ที่สุดของบาฮามาสมากว่า 1,050 ปีเอาไว้ ...
น่าลงไปแวกว่ายดีแฮะ อิอิ...
อันดับที่ 2 The Black Hole Of Andros
หลุมดำแห่งอันดรอส ที่ บาฮามาส
ห่างออกไปประมาณ 100 กิโลเมตรจากเมืองที่แออัดของ Nassau เราจะพบกับพื้นที่ที่ถือได้ว่า เป็นแหล่งของชั้นหินปูนที่แสนจะลึกลับที่สุดของโลก.....
ภาพหลุมอื่นๆที่พบในพื้นที่เกาะ บาฮามาส...
ที่รู้จักกันดีที่สุดและประทับใจมากที่สุดในพื้นที่แห่งนี้ก็คือ หลุมดำแห่งอันดรอส 1 ในบรรดาหลุมลึกใต้ทะเลของบาฮามาส...
ซึ่งมันถูกค้นพบครั้งแรกในปี 1985 จากเครื่องบินของคนในภาคใต้เกาะ Andros โดยหลังจากการบินผ่านตรงนี้ พวกเขาสังเกตเห็นหลุมต่างๆเต็มไปหมดทั่วทั้งพื้นที่ แถมยังมีน้ำสีดำผิดปกติ ซึ่งคาดว่าพวกมันน่าจะเป็นหลุมอุกกาบาต....
หลุมดำของอันดรอสที่ตั้งอยู่บนเกาะทางตอนใต้ของอันดรอสในบาฮามาส มันจะมีสีของน้ำทะเลที่แตกต่างจากหลุมอื่นๆ โดยมันจะมีสีม่วงที่เข้มมาก นั่นอาจจะเป็นเพราะความลึกของมัน ที่ลึกประมาณ 18 เมตร (60 ฟุต) ลงไปใต้หลุม ยังมีความหนาแน่นของบรรดาแบคทีเรียที่ลอยระหว่างชั้นบนของชั้นออกซิเจน และลึกลงไปใต้หลุมที่ไม่มีออกซิเจนอยู่เลยแม้แต่น้อย...
เกาะประกอบไปด้วยโคลนลึก ดังนั้นจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสำรวจหลุมดำโดยไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์โดยเฉพาะเฮลิคอปเตอร์ มันได้รับการสำรวจครั้งแรกโดยนักวิทยาศาสตร์และนักดำน้ำที่ชื่อ Steffi Schwabe ซึ่งเป็นครั้งแรกที่พวกเขาจะดำลงไปในชั้นที่มีแบคทีเรียเข้มข้นมาก โดยที่นักดำน้ำคนหนึ่งอธิบายว่า เมื่อพวกเขาว่ายน้ำลึกลงไป ภายใต้นั้น พบว่าเป็นชั้นบางๆ ของน้ำที่ดูชัดเจนและพอผ่านลงไปในชั้นสีม่วงของน้ำอีก พวกเขาก็อธิบายว่า น้ำข้างใต้นี้มีสภาพเหมือนเจลลี่....
ภาพการเปรียบเทียบขนาดของหลุมกับเครื่องบินโดยสาร
เป็นที่น่าแปลก ที่น้ำมีระดับสูงมากของไฮโดรเจนซัลไฟด์ซึ่งเป็นพิษ และยังมีแบคทีเรียมากมาย และมันมีผลในการรักษาสภาพน้ำโดยที่ไม่เปลี่ยนแปลงสภาพมากว่า 3.5 ล้านปี....
และก็มาถึงอันดับที่ 1....
อันดับที่ 1 The Son Doong Cave
ปากหลุมถ้ำซานดุง ถ้ำยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก!
สุดท้าย...สุดอลังการกับ "Son Doong" ที่ได้ชื่อว่าเป็น "ถ้ำยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก" ถูกค้นพบเมื่อปี 2009 อยู่ที่ เมือง"กง บินห์"ในประเทศเวียดนาม การค้นพบถ้ำดังกล่าวสร้างความตื่นตะลึงไปทั่ววงการวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมเลยทีเดียว....
ภาพเปรียบเทียบและแผนที่ภายในถ้ำ
นอกจากป่าอันเขียวชะอุ่ม ยังมีน้ำตกหลายแห่ง หินงอกและหินย้อยขนาดยักษ์ รวมทั้งแม่น้ำใหญ่ สูงกว่า 80 เมตร กว้าง 80 เมตรมีระยะทางยาวไม่น้อยกว่า 4.5 กิโลเมตรทั้งนี้บางตอนของโถงมีขนาดสูง 140 เมตร กว้าง140 เมตรสามารถสร้างตึกระฟ้าสูงขนาด 40 ชั้นได้อย่างสบาย เหล่านักท่องเที่ยวต่างตื่นเต้นกับการให้เห็นถ้ำแห่งนี้อย่างมาก และบอกว่าพวกเขาได้ผจญภัยกับสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก....
โห...อลังการสวยงามมากมาย จะมีบุญไปเที่ยวนอนค้างกางเต็นสักคืนไหมนะ อยู่ใกล้ๆบ้านเรานี่เอง....
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านครับ ไม่พบกันใหม่โอกาสหน้า สวัสดีจ้ะ....
Thank CR : listverse.com
Thank CR : wikipedia.org
เชิญแสดงความเห็นท่านได้ที่ช่อง Facebook ด้านล่างนะจ้ะ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น