พวกเขาเหล่านั้นเป็นใครกันแน่? นั่นคือคำถามหลังจากที่เราศึกษาประวัติ ความเป็นมา ที่ยังลี้ลับซับซ้อนของพวกเขา ใยทุกคนต้องปกปิด ทำไมพวกเขาต้องปิดบัง และที่สุดแล้ว เหตุผลที่พวกเรายังคงไม่รู้ มันก็ยังคงความลึกลับต่อไป ให้เราได้ศึกษา ในอีกด้านของความรู้ ที่ไม่เคยถูกบรรจุไว้ในตำราเรียน...
แหม่ะ!! เกริ่นมาซะยิ่งใหญ่อลังการงานเวอร์ เวิ่นเว้อซะ...เสียเวลาอ่านเนอะ ไปเข้าเรื่องกันดีกว่า ฮ่า....
ดูคลิปแบบย่อๆได้ที่นี่จ้า
มาเริ่มต้นกันใน อันดับที่ 10
อันดับที่ 10
มองซิเออร์ ชูชานี (Monsieur Chouchani)
ขอบคุณภาพจาก chouchani.com
อาจารย์เชื้อสายยิวผู้ลึกลับ ที่เคยถ่ายทอดวิชาให้กับลูกศิษย์ระดับสูงชาวยุโรปหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเขาเองจะมีการสไตล์แต่งตัวที่ดูเหมือนคนจรจัด แต่ความรู้ของเขานี่เข้าขั้นอัจฉริยะ ทั้งด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และปรัชญา ทั้งยังมีความรู้เรื่องคัมภีร์โบราณของยิวอีกด้วย
ขอบคุณภาพจาก chouchani.com
ซึ่งลูกศิษย์ที่เคยมีโอกาสได้รับการสั่งสอนล้วนมีหน้าที่การงานที่ใหญ่โตและมีชื่อเสียง ยกตัวอย่างเช่น นายเอ็มมีนัวส์ ลีวีนัสนักปรัชญา หรือนายเอลี วีเซลผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ
นายเอลี วีเซล
ภาพจาก councilforthenationalinterest.org
แต่ถ้าหากถามถึงประวัติที่มาของเขากลับไม่มีใครสามารถให้ข้อมูลได้แน่ชัด เพราะทางการได้เก็บประวัติเขาเอาไว้ชนิดที่ว่า ลับสุดยอด....ทุกอย่างในชีวิตของเขาล้วนเป็นปริศนาทั้งสิ้น ทราบแค่เพียงว่าเขาปรากฏตัวครั้งแรกที่ปารีสในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้วเขาก็หายตัวไปอย่างลึกลับ จนกระทั่งครั้งสุดท้ายเขาก็ไปปรากฏตัวอยู่ที่ประเทศอุรุกวัยและเสียชีวิตลงในปี 1968 และที่มาที่ไปของเขาก็ยังคงความลึกลับตราบจนถึงทุกวันนี้
อันดับที่ 9
ชายลึกลับผู้มาคารวะศพ โป (The Poe Toaster)
ขอบคุณภาพจาก vablonsky.com
เอ็ดการ์ อัลเลน โป (บางท่านอ่านว่า โพ)เป็นนักเขียนเรื่องสั้นฆาตกรรมสยองขวัญชื่อดังชาวสหรัฐอเมริกา หลังจากการตายของเขาก็เกิดเรื่องราวที่น่าสนใจเกิดขึ้น ในทุกๆวันที่ 19 มกราคมของทุก ๆ ปีซึ่งตรงกับวันครบรอบวันเกิดของโป จะปรากฏชายลึกลับคนหนึ่ง ซึ่งไม่มีใครทราบข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับตัวตนของเขาเลย เขาจะแต่งตัวด้วยชุดดำ ปกปิดใบหน้าด้วยผ้าปิดจมูก สวมผ้าพันคอสีขาวและใส่หมวกสักหลาด ถือไม้เท้า และเมื่อมาถึงหน้าหลุมศพ เขาก็จะดื่มบรั่นดีคอนยัคที่เตรียมมา จากนั้นเขาก็จะวางขวดบรั่นดีที่เหลือครึ่งขวดเอาไว้ พร้อมกับดอกกุหลาบแดงอีก 3 ดอก วางเอาไว้ด้านหน้าหลุมศพ....
เอ็ดการ์ อัลเลน โป
ภาพจาก smithsonianmag.com
ในที่สุดเรื่องราวของเขาก็เป็นที่โด่งดัง เหล่าแฟนๆของโปจึงมักจะพากันมารวมตัวในวันครบรอบวันเกิดของโป เพื่อที่จะพบกับชายคนนั้น แต่เขากลับไม่ต้องการ จึงเป็นการยากมากที่จะมีใครเข้าถึงตัวและถ่ายภาพเขามาได้ แต่ที่ฮือฮาเห็นจะเป็นเหตุการณ์ในปี 1993 เมื่อมีผู้พบว่า เขาได้ทิ้งโน๊ตเอาไว้หลังจากการคารวะ โดยมีข้อความระบุว่า "คบเพลิงจะถูกส่งต่อ"
ขอบคุณภาพจาก frieze.com
จากเหตุการณ์นี้ จึงทำให้ทุกคนเชื่อว่า ชายลึกลับคนนี้กำลังจะมีการสืบทอดตำแหน่งนี้ต่อไป จนกระทั่งในปี 1999 ก็มีโน๊ตวางไว้โดยบ่งบอกว่า ตอนนี้ชายลึกลับคนเดิมได้จากไปแล้ว และตอนนี้คือผู้ที่กำลังจะมาสืบทอดต่อไป....
หลายครั้งมีผู้ยืนยันถึงความลึกลับของผู้มาคารวะศพโปว่า พวกเขาเห็นชายลึกลับผู้นี้ล่องลอยได้เหมือนวิญญาณ บางครั้งก็หายตัวไปอย่างลึกลับต่อหน้าต่อตา แต่ทว่าจนกระทั่งในราวปี 2010 เขาก็ไม่มาปรากฏตัวอีกเลย ทำให้ความลึกลับของชายผู้มาคารวะศพโป ยังคงความลี้ลับต่อไป ตราบจนถึงทุกวันนี้....
อันดับที่ 8
บาบุชกา เลดี้ (Babushka Lady)
ขอบคุณภาพจาก reddit.com
หลังจากเหตุการณ์ลอบสังหารประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี้ ในปีค.ศ. 1963 ได้ปรากฏมีผู้สังเกตเห็นหญิงนิรนามรายหนึ่ง ซึ่งเธอสวมเสื้อโค้ทสีน้ำตาลพร้อมกับปกปิดใบหน้าด้วยผ้าคลุม เธอได้ยืนอยู่ในจุดที่น่าสงสัยเป็นอย่างยิ่ง เพราะเธอยืนอยู่ใกล้กับรถของจอห์น เอฟ เคนเนดี้ และในวินาทีที่เคนเนดี้ถูกสังหารโดยปืนสไนเปอร์ เธอจึงสามารถมองเห็นเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจน
ขอบคุณภาพจาก coolinterestingstuff.com
ลักษณะท่าทางของเธอเป็นที่น่าสงสัยว่า อาจจะเป็นหนึ่งในผู้สมคบคิดก่อเหตุการณ์อันน่าสะเทือนขวัญครั้งนี้ขึ้น ซึ่งผู้เกี่ยวข้องและ FBI ก็ได้ออกตามหาตัวเธอเพื่อขอหลักฐานมาใช้ประกอบคดี โดยในปีค.ศ. 1970 มีคนอ้างตัวว่าเป็นผู้หญิงคนดังกล่าว โดยเธอชื่อ โลลิตา ดีวาโดวิช แต่สุดท้ายแล้วก็เป็นแค่คำโกหก ดังนั้นจนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครรู้ว่าผู้หญิงคนดังกล่าวเป็นใครจนกระทั่งบัดนี้....
อันดับที่ 7
คาสปาร์ เฮาเซอร์ (Kaspar Hauser)
ขอบคุณภาพจาก perseus.ch
ขอบคุณภาพจาก wikipedia.org
ไม่มีใครทราบว่าเขาเป็นใคร มาจากไหน อีกทั้งเขามีท่าทางงุนงงและตื่นตระหนก ทางการจึงได้จับตัวเด็กคนนี้ไปขังไว้ในคุกในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง ในระหว่างนั้นเขาก็ได้เรียนรู้การพูดและการเขียนจากผู้คุม จนสามารถเล่าเรื่องที่มาของตัวเองได้ โดยกล่าวว่าก่อนหน้านี้เขาเคยถูกคุมขังไว้ในคุกมืดแคบๆ ไม่เคยได้พบเห็นหน้าหรือมีโอกาสพูดคุยกับผู้ใดมาก่อนเลย มีเพียงของเล่นม้าไม้ กับถูกฝึกให้เขียนคำว่า ทหารม้า และ คาสปาร์ เฮาเซอร์เท่านั้น...
ในทุกๆเช้าเมื่อตื่นนอนก็จะพบเพียงขนมปังและน้ำวางเอาไว้ หลายครั้งที่มันทำให้เขาหลับไปนานกว่าปรกติ และเป็นที่น่าประหลาดใจว่า เล็บและผมของเขาจะถูกตัดออกอย่างเรียบร้อยทุกครั้งที่เขาตื่นนอน
ขอบคุณภาพจาก theguardian.com
มีข้อสันนิษฐานแตกต่างกันออกไป บ้างก็ว่าเป็นทายาทของราชวงศ์ บางก็กล่าวว่าเป็นเพียงเด็กเลี้ยงแกะชอบพูดโป้ปดเพื่อเอาตัวรอด จนกระทั่งในวันที่ 17 ธันวาคม 1833 เขาก็ตายโดยแผลถูกแทง ซึ่งก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาแทงตัวเอง หรือ ถูกฆ่า และแล้วศพของเขาก็ถูกฝังที่สุสานเล็กๆท่ามปลางปริศนาหลายๆอย่างที่ยังไม่มีใครสามารถไขได้เรื่อยมา....
ขอบคุณภาพจาก wikipedia.org
จนกระทั่งเมื่อปี ค.ศ. 2002 นักวิทยาศาสตร์ได้นำดีเอ็นเอที่ได้จากเสื้อผ้าของคาสปาร์ไปพิสูจน์กันอีกครั้ง โดยเทียบกับดีเอ็นเอของแอนตริส เมดินเจอร์ ผู้สืบเชื้อสายจาก สเตฟานี เดอ บัวฮาร์เนส ผู้เป็นมารดาของคาสปาร์ ซึ่งผลที่ออกมาปรากฏว่าคาสปาร์มีแนวโน้มว่าอาจจะเป็นทายาทผู้สืบทอดบัลลังก์ของกษัตริย์แห่งบาเดนจริงๆ!!
อันดับที่ 6
ฟูลคาเนลลี (Fulcanelli)
ขอบคุณภาพจาก secretfire.wordpress.com
เขาคือนักเล่นแร่แปรธาตุผู้เต็มไปด้วยปริศนามากมายที่ไม่เคยมีใครสามารถเปิดเผยหรือล่วงรู้ความจริงมาก่อนทั้งเรื่องส่วนตัวและชีวิตการทำงาน เขาใช้ชีวิตอยู่ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 มีเพียงเรื่องเล่าขานที่กล่าวกันมา โดยมีผู้กล่าวว่า เขาเป็นอัจฉริยะที่มีความรู้แตกฉานเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นทางด้าน ศิลปะวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม วิทยาศาสตร์ และ ภาษาศาสตร์...
ขอบคุณภาพจาก alchemy1961.tripod.com
เรื่องที่ทำให้ผู้คนตกตะลึงมากที่สุดก็คือ การที่เขาสามารถทำให้ตะกั่วจำนวน 100 กรัมกลายเป็นทองคำได้ แถมยังโปรยทองคำเหล่านั้นต่อหน้าบุคคลสำคัญๆหลายคนอีกด้วยนะ และครั้งนั้นเขาก็อ้างว่าเขาได้ใช้ผงสูตรลับพิเศษที่เขาได้รับการถ่ายทอดวิชามาจากอาจารย์เพื่อทำการแปรตะกั่วให้เป็นทอง และ ไม่เคยมีใครทำได้ในโลกใบนี้ นอกจากเขาคนเดียว...
ขอบคุณรูปภาพจาก beforeitsnews.com
นอกจากนี้เขายังมีความรู้ในเรื่องของอาวุธนิวเคลียร์ด้วย โดยเขาได้อธิบายหลักการ ขั้นตอน และวิธีการผลิตอย่างละเอียดให้กับนักฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งฟังพร้อมทั้งยังทราบว่าอีกไม่นานมนุษย์ในโลกอนาคตจะมีการนำนิวเคลียร์มาใช้เป็นอาวุธต่อสู้ในศึกสงคราม ดังนั้นเขาจึงเสมือนเป็นกุญแจสำคัญของทั้งฝ่ายนาซีและฝรั่งเศสในสมัยนั้น หลายฝ่ายพยายามตามหาตัวเขา...
แต่ที่มาของเขามีเพียงคำบอกเล่าของลูกศิษย์เท่านั้น ต่อมาเขาได้เดินทางไปยังปราสาทที่ตั้งอยู่บนเขาสูงในประเทศสเปนเพื่อพบกับคนสำคัญคนหนึ่ง แต่หลังจากนั้นก็ไม่เคยมีใครได้พบเห็นอีกเลย และไม่แน่ใจด้วยว่าเขาลาจากโลกนี้ไปแล้ว หรือใช้ชีวิตอยู่อย่างคนอมตะไปตลอดกาล....
เอาล่ะครับ แค่ 5 อันดับแรกก็น่าสนใจกันแล้ว!!
พักกันก่อน เดี๋ยวตามไปต่อกัน กับ 5 อันดับสุดท้ายในภาคที่ 2 นะครับ!!
ติดตามอ่าน ตอนที่ 2 ได้ที่นี่ คลิ้กเล้ยยยย!!
ติดตามอ่าน ตอนที่ 2 ได้ที่นี่ คลิ้กเล้ยยยย!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น