ตามตำนานนักฆ่า หรือ ฆาตรกรผู้เหี้ยมโหดที่ยังคงเป็นปริศนา เราคงจะรู้จักหลายๆคน จนนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์หลายต่อหลายครั้ง ที่โด่งดังที่สุดก็เห็นจะเป็น แจ็ค เดอะ ริปเปอร์ ที่ปัจจุบันเรายังคงหาตัวผู้ร้ายมาลงโทษไม่ได้ แต่นั่นมันก็เป็นเรื่องราวในอดีตที่ผ่านมาเมื่อเนิ่นนานมาแล้ว มันอาจจะเป็นแค่เรื่องเล่าที่ทำให้เรารู้สึกสนุกกับมัน ในความลึกลับดำมืดนั้น... แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับเราในโลกยุคปัจจุบันมากนัก...
แต่ถ้า....มันกลับมีฆาตรกรต่อเนื่อง ที่มันกำลังใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับพวกเราในตอนนี้ล่ะ เราจะรู้สึกว่ามันยังไกลตัวเราไหม? เราจะเคยคาดคิดบ้างไหมว่าสักวันหนึ่ง มันอาจจะมายืนข้างๆเราตอนเราโหนรถเมลล์กลับบ้าน หรือมันอาจจะมาเดินตามเราในตอนที่เราเดินคนเดียว... หรือมันอาจจะเป็น 1 ในผู้ร่วมงานเรา คนใดคนหนึ่งก็เป็นได้...
ดังนั้นการศึกษาเหตุฆาตกรรมเหล่านี้ไม่ใช่เพียงแต่เราจะรู้สึกตื่นเต้นหรือสนุกสนานไปกับเรื่องราวความเก่ง ความฉลาด หรือความลึกลับของมัน เราควรจะใช้มันเพื่อศึกษา และเอาไว้ป้องกันตัว เผื่อที่เราอาจจะเจอกับพวกมัน ไม่วันใดก็วันหนึ่งก็เป็นได้....
ต่อไปนี้ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเรื่องเร้นลับ ลึกลับดำมืด ผมจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ...
10 ฆาตรกรต่อเนื่อง...ที่ยังคงเป็นปริศนา คงไว้ซึ่งความลึกลับดำมืด!!
ซึ่งท่านอาจจะคุ้นเคยกับตำนานฆาตกรต่างๆที่เคยนำมาถูกแชร์บนโลกออนไลน์หลายต่อหลายครั้งได้ดี แต่นี่ท่านอาจจะยังไม่เคยผ่านหูผ่านตา ถือว่าเป็นอีกตำนานบทใหม่ที่ผมจะพาทุกๆท่านไปทำความรู้จักกับพวกมัน....
เชิญทุกท่านเข้าไปสัมผัสกับพวกมันได้เลยนะ บัดนาว!!
อันดับที่ 10 The Atlanta Ripper
ฆาตรกรต่อเนื่องแห่งแอตแลนต้า!! หรือที่เรียกมันอีกชื่อก็คือ แจ็ค เดอะ ริปเปอร์ รีเทิร์น!!
เราอาจจะรู้จักชื่อ แจ็ก เดอะ ริปเปอร์ ที่เป็นฆาตกรต่อเนื่องในยุคปี 1888 ที่มันฆ่าผู้หญิงในย่านสลัมของลอนดอนไปมากกว่า 5 ราย..และมันยังลอยนวล ไม่มีใครจับมันมาลงโทษได้...
ผ่านไปกว่า 20 ปีในที่สุดในปี 1911 ... ก็มีเหตุการณ์ฆาตกรรมสุดสยองเกิดขึ้นในย่านชุมชนชาวแอฟริกัน โดยเหยื่อที่ถูกมันฆ่ามีมากกว่า 20 ราย และส่วนใหญ่จะเป็นหญิงผิวดำเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกัน!!
มันถูกขนานนามว่า เดอะ แอตแลนต้า ริปเปอร์ ซึ่งชื่อจะไปคล้องกับ แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ ไม่ใช่เพราะความบังเอิญ แต่วิธีการที่มันทำกับเหยื่อ มันช่างคล้ายคลึงกันเป็นยิ่งนัก...
โดยเหยื่อรายแรกของมันเกิดขึ้นในเช้าของวันที่ 22 มกราคม 1911 ศพของเธอถูกพบใน
สภาพหัวกระโหลกเละเหมือนถูกบดขยี้ด้วยของมีคมทื่อๆ ขากรรไกรถูกแทง และที่ลำคอมีร่องรอยถูกเชือด!! และหลังจากนั้นก็ปรากฏว่ามีผู้หญิงผิวสีเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกันถูกฆ่าตายอย่างเป็นปริศนาตามมาอีกเรื่อยๆ จนกระทั่งเมื่อสื่อและผู้คนเริ่มให้ความสนใจ และขนานนามมันว่า "The Atlanta Ripper"
เหตุการณ์ที่โด่งดังที่สุดเห็นจะเป็นในวันที่ 1 กรกฏาคม 1911 หญิงสาวคนหนึ่งที่ชื่อ Emma Lou Sharpe กำลังรอแม่ของเธอกลับบ้านจากการช้อปปิ้งร้านขายของชำ แต่เมื่อแม่ของเธอยังไม่มาถึงสักที เธอจึงออกไปตามหาและได้พบคนแอฟริกันอเมริกันที่สวมหมวกสีดำท่าทางแปลกๆ เขาพูดกับเธอว่า "ผมจะไม่ทำร้ายผู้หญิงเช่นคุณ" แต่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวมันก็ดึงตัวเธอเข้าไปอย่างแรง และเอามีดแทงเธอจากด้านหลัง เธอพยายามที่จะกระเสือกกระสนเอาชีวิตรอดและก็หลบหนีมาได้ แต่ต่อมาเธอพบว่าคนร้ายได้ฆ่าแม่ของเธอไปเสียแล้ว....
หนึ่งสัปดาห์ต่อมาผู้หญิงอีกคนหนึ่งได้พบกับชายคนหนึ่งที่มีลักษณะต้องสงสัยเหมือนกรณีของเอ็มม่า เธอจึงวิ่งหนีก่อนที่จะโดนทำร้าย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามสืบหาตัวคนร้ายและนำผู้ต้องสงสัยหลายต่อหลายคนมาสอบสวน แต่ก็ไม่พบว่าใครจะเป็นผู้ร้าย และมันก็ยังคงรอดลอยนวลมาจนเป็นคดีปริศนามาจนถึงปัจจุบัน!!
ไปพบกับ อันดับต่อไป...
อันดับที่ 9 Stoneman
ไอ้หินโหด สโตนแมน ฆาตกรต่อเนื่องแห่งอินเดีย!!
ฆาตกรต่อเนื่องที่รู้จักมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของอินเดียเป็นที่รู้จักกันแค่ในชื่อ "Stoneman" และมันได้ทำการฆ่าเหยื่อไปมากกว่า 13 ศพในกัลกัต โดยปี 1989 เหยื่อคนแรกของเขาถูกฆ่าตายในเดือนมิถุนายนของปีนั้นด้วยการทุบหัวด้วยก้อนหินจนเละ เหยื่อเป็นเด็กที่จรจัดที่กำลังนอนหลับอยู่คนเดียวและเมื่อเขาถูกฆ่าตาย ในช่วงหกเดือนถัดไป อีก 12 คนที่เป็นคนจรจัดก็ถูกฆ่าตายในแบบเดียวกัน และตำรวจก็ไม่เคยจับฆาตกรได้เลยแม้แต่สักครั้งเดียว....
ก่อนหน้านี้ในปี 1985 คนจรจัดอย่างน้อย 12 รายได้ถูกฆ่าตายในบอมเบย์ โดยที่หัวของพวกเขาทุบด้วยก้อนหินในขณะที่พวกเขานอนหลับ เรื่องนี้ทำให้เจ้าหน้าที่สงสัยว่าฆาตกรรมที่บอมเบย์และกัลกัต ฆาตกรอาจจะเป็นคนคนเดียวกัน นักวิจัยไม่สามารถสรุปตรวจสอบว่าทั้งหมดของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อทั้งที่กัลกัตและบอมเบย์ถูกฆ่าโดยคนคนเดียวกัน หรือถ้า Stoneman อาจจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจบางอย่าง ทำให้เกิดการฆาตกรรมเลียนแบบ.....
ผู้ต้องสงสัยหลายคนถูกจับกุมและสอบสวน แต่ไม่มีหลักฐานพอที่กล่าวหาว่าเป็นคนร้าย ทุกคนถูกจับมาปรับแล้วก็ปล่อยตัวไป และมันก็ยังคงลอยนวลมาจนถึงทุกวันนี้....
เรื่องนี้ยังถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ที่ชื่อ "The Stoneman Murders"
สนใจก็ไปหามาดูกันได้นะจ้ะ....
อันดับที่ 8 The Honolulu Strangler
นักฆ่ารัดคอแห่งเกาะฮาวาย!!
ฆาตกรต่อเนื่องคนแรกที่พบบนเกาะสวาทหาดสวรรค์แห่งนี้ ซึ่งถูกกล่าวอ้างว่าเป็นผู้รับผิดชอบต่อการตายของผู้หญิง 5 คน ในช่วงระหว่างปี 1985 และปี 1986 โดยถูกขนานนามว่า "The Honolulu Strangler" โดยที่เหยื่อซึ่งเป็นผู้หญิงจะถูกมัดมือไว้ด้านหลังของพวกเธอและก็จะข่มขืนและทำร้ายร่างกายพวกเธอก่อนที่จะฆ่าทิ้งโดยการบีบคอ หรือ รัดคอจนเหยื่อขาดใจตาย และทิ้งร่างของพวกเธอเอาไว้อย่างเอน็จอนาจ....
โดยเหยื่อรายที่หนึ่ง ชื่อ Vicky Gail Purdy อายุ 25 ปี เธอทำงานอยู่ที่ร้านเช่าหนังโป้และได้แต่งงานกับนักบินเฮลิคอปเตอร์ Gary Purdy
วันที่ 29 พฤษภาคม 1985 วิกกี้ได้ออกไปเที่ยวคลับใน Waikiki แต่เธอไม่พบเพื่อนของเธอ ต่อมาร่างของเธอถูกพบในวันรุ่งขึ้นที่เขื่อนสวนสาธารณะคีฮีลากูน เธอยังคงแต่งกายในชุดสูทสีเหลืองที่เธอแต่งออกไปเที่ยวเมื่อคืน มือของเธอได้รับการผูกไว้ด้านหลังและเธอก็ถูกข่มขืนและรัดคอจนตาย เมื่อตำรวจสอบปากคำสามีของเธอ เขาบอกว่าเขาสงสัยว่าการตายของเธออาจจะมีส่วนเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่ผู้หญิงสองคนซึ่งเคยทำงานด้วยกันถูกฆ่าตายในปีก่อนหน้าก่อนที่เธอจะมาทำงาน...
เหยื่อรายที่สอง ชื่อ Regina Sakamoto อายุ 17 ปี เป็นนักศึกษาที่ โรงเรียนมัธยม Leilehua
วันที่ 14 มกราคม 1986 เวลา 07:15 Regina ได้บอกแฟนของเธอว่าเธอจะไปโรงเรียนสาย เพราะเธอพลาดรถบัสจาก Waipahu นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ทุกคนได้พบเธอ ในวันรุ่งขึ้นร่างของเธอถูกพบที่สวนสาธารณะคีฮีลากูน เธอยังคงสวมใส่ชุดนักศึกษา แต่ครึ่งล่างของเธอเปลือยเปล่า เช่นเดียวกับวิกกี้ มือของเธอถูกมัดไว้ด้านหลังและเธอถูกข่มขืนและรัดคอ ตำรวจเชื่อว่าน่าจะมาจากคนร้ายคนเดียวกัน เพราะวิธีการและสถานที่ที่เชื่อมโยงกัน....
เหยื่อรายที่สาม ชื่อ Denise Huges อายุ 21 ปี เป็นเลขานุการให้กับ บริษัทโทรศัพท์ และเป็นสมาชิกที่โบสถ์ในศาสนาคริสต์
วันที่ 30 มกราคม ทุกๆวันเธอจะขับรถบัสของเธอไปยังที่ทำงานแต่วันนี้เธอหายไป จนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ร่างของเธอถูกพบใน Moanalua Stream โดยชาวประมง 3 คน ร่างของเธอเน่าเปื่อยและเธอก็สวมชุดสีฟ้าแล้วห่อด้วยผ้าใบกันน้ำสีฟ้า เช่นเดียวกับเหยื่อรายอื่นๆ มือของเธอถูกผูกไว้ด้านหลังและถูกข่มขืนและรัดคอ....
เหยื่อรายที่สี่ ชื่อ Louise Medeiros อายุ 25 ปี เธออาศัยอยู่ใน Waipahu แต่เธอเลือกที่จะอยู่ใน Kauai กับครอบครัวหลังจากการตายของแม่ของเธอ
ในวันที่ 26 มีนาคมเธอได้ขึ้นเที่ยวบินกลับไปที่เกาะโอวาฮู และบอกกับครอบครัวของเธอว่าเธอจะนั่งรถบัสกลับเอง และก็ไม่มีใครเห็นเธออีกเลย จนกระทั่งร่างของเธอถูกพบใกล้ Waikele Stream โดยคนงานบนถนนในวันที่ 2 เมษายน ร่างของเธอเน่าเฟะและเธอก็สวมเสื้อซึ่งร่างกายท่อนล่างเปลือยเปล่าและมือของเธอถูกผูกไว้ด้านหลังเหมือนดั่งเช่นเหยื่อรายก่อนหน้า....
เหยื่อรายที่ห้า ชื่อ Linda Pesce อายุ 36 ปี
ลินดาเป็นเหยื่อที่รู้จักกันรายที่ห้าและเป็นรายสุดท้ายของเจ้าฆาตกรจอมบีบคอ วันที่ 29 เมษายน เธอออกจากบ้านไปที่ทำงานในเวลา 19:00 แต่อีก 30 นาทีต่อมารถของเธอจอดอยู่ที่ด้านข้างของสะพาน Nimitz-H1 เพื่อนร่วมห้องของเธอบอกว่าเธอได้หายตัวไป ต่อมามีคนหาของเก่าไปแจ้งตำรวจว่าพบศพคนบนชายหาด จนกระทั่งในวันที่ 3 พฤษภาคม ตำรวจไปยังสถานที่ที่ถูกแจ้งแต่ก็ไม่มีการค้นพบร่างดังกล่าว ตำรวจจึงทำการค้นเกาะและพบร่างเปลือยของลินดาในที่สุด มือของเธอถูกผูกไว้ด้านหลังเช่นเดียวกับเหยื่อรายอื่นๆ....
ทั้งตำรวจและเอฟบีไอได้ทำการสืบสวนเรื่องนี้อย่างจริงจัง มีผู้ต้องสงสัยที่เป็นทั้งแฟนของผู้ตาย ผู้ร่วมงาน และผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ที่อยู่เป็นคนสุดท้ายก่อนที่เหยื่อจะถูกฆ่าตาย แต่ในที่สุดก็ไม่สามารถหาหลักฐานมาเอาความผิดกับคนเหล่านั้น ทั้งหมดถูกปล่อยตัวไป และหลังจากนั้นก็ไม่พบว่ามีการฆาตกรรมเกิดขึ้นอีกเลย มันจึงเป็นฆาตกรต่อเนื่องอีกคน ที่ยังคงลอยนวล....
อันดับที่ 7 The Colonial Parkway Killer
นักฆ่าแห่งป่าสงวนปาร์กเวย์!!
ในวันที่ 12 ตุลาคม 1986 Cathleen Thomas และ Rebecca Ann Dowski สองสาวซึ่งเป็นเลสเบี้ยน ถูกพบเป็นศพในสภาพถูกตัดคออยู่ในรถฮอนด้าซีวิค โดยรถได้ถูกผลักให้ตกลงไปในเขื่อนของเขตป่าสงวนปาร์คเวย์ นักวิจัยพบว่าเหยื่อมีร่องรอยการถูกบีบรัดด้วยเชือกจนเป็นรอยไหม้ก่อนที่คอของพวกเขาจะถูกตัด!! ไม่มีหลักฐานของการข่มขืนและการปล้น แต่มีเหยื่อคนหนึ่งที่ดูเหมือนว่าเธอจะต่อสู้กับคนร้าย เพราะนักวิจัยพบช่อผมในมือของเธอ....
ต่อมาในเดือนกันยายนของปี 1987 David Knobling และ Robin Edwards ได้หายตัวไป รถของเขาถูกพบซ่อนอยู่ใกล้ Smithfield เวอร์จิเนีย ในสภาพถูกเผาไหม้และด้านข้างประตูด้านคนขับเปิดอยู่ หลายวันต่อมาร่างของพวกเขาถูกน้ำพัดมาตามชายฝั่งของแม่น้ำเจมส์ห่างจากจุดพบรถเป็นระยะทางสองไมล์ พวกเขาทั้งสองถูกยิงตาย โดยที่ทั้งสองสวมเสื้อผ้าเพียงบางส่วน Knobling ใส่กางเกงยีนส์ แต่เข็มขัดบนกางเกงยีนส์เอ็ดเวิร์ดไม่ถูกใส่ไปตามปรกติ กางเกงในของเอ็ดเวิร์ดและ Knoblings 'ถูกพบอยู่ในรถบรรทุก ตำรวจเชื่อว่าพวกเขาคงเดินจากรถบรรทุกไปที่แม่น้ำ ก่อนที่พวกเขาจะถูกฆ่า....
ต่อมาในเดือนกันยายนของปี 1987 David Knobling และ Robin Edwards ได้หายตัวไป รถของเขาถูกพบซ่อนอยู่ใกล้ Smithfield เวอร์จิเนีย ในสภาพถูกเผาไหม้และด้านข้างประตูด้านคนขับเปิดอยู่ หลายวันต่อมาร่างของพวกเขาถูกน้ำพัดมาตามชายฝั่งของแม่น้ำเจมส์ห่างจากจุดพบรถเป็นระยะทางสองไมล์ พวกเขาทั้งสองถูกยิงตาย โดยที่ทั้งสองสวมเสื้อผ้าเพียงบางส่วน Knobling ใส่กางเกงยีนส์ แต่เข็มขัดบนกางเกงยีนส์เอ็ดเวิร์ดไม่ถูกใส่ไปตามปรกติ กางเกงในของเอ็ดเวิร์ดและ Knoblings 'ถูกพบอยู่ในรถบรรทุก ตำรวจเชื่อว่าพวกเขาคงเดินจากรถบรรทุกไปที่แม่น้ำ ก่อนที่พวกเขาจะถูกฆ่า....
รูปบรรดาเหยื่อของเจ้าฆาตกร
ในเดือนเมษายนของปี 1988 Cassandra Lee Hailey และ Richard Keith Call ได้ถูกแจ้งว่าหายตัวไปหลังจากที่เข้าร่วมงานเลี้ยง รถของพวกเขาถูกพบในเขตป่าสงวนปาร์คเวย์ในวันถัดไป ประตูด้านข้างคนขับถูกเปิดแง้มอยู่และกุญแจอยู่ในจุดสตาร์ทเครื่องยนต์ เสื้อผ้าของทั้งคู่ถูกพบอยู่ที่เบาะหลังของรถ นั่นหมายถึงพวกเขาก็คงจะเปลือยเปล่าล้อนจ้อน ไม่มีวี่แววของการต่อสู้ใดๆ... แต่พวกเขากลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เชื่อว่าพวกเขาคงจะกลายเป็นเหยื่อและถูกฆ่าไปแล้วเช่นกัน....
ต่อมาในเดือนตุลาคมปี 1989 นายพรานล่าสัตว์ในป่าของ New Kent ได้ค้นพบซากโครงกระดูกของ Anna Marie Phelps และ Daniel Lauer พวกเขาได้รับการเห็นเป็นครั้งสุดท้ายในวันที่ 5 กันยายน 1989 โดยรถเชฟโรเลตโนวาปี 1973 ของพวกเขาถูกพบจอดอยู่ที่ป้ายทางด้านทิศตะวันตกของ I-64 ในวันเดียวกัน กุญแจยังอยู่ในจุดสตาร์ทเครื่องยนต์และน้ำมันยังคงเต็มถัง พบกระเป๋าอยู่ในรถและบางส่วนของเสื้อผ้าถูกพบในรถ ร่างของพวกเขาถูกพบอยู่น้อยกว่าหนึ่งไมล์จากจุดที่พบรถ สภาพศพเน่าเปื่อยจนไม่สามารถสืบหาการตายได้ แต่เชื่อได้ว่าพวกเขาอาจจะถูกแทง....
เหยื่อทั้งหมดถูกจับมาเชื่อมโยงกันทั้งวิธีการฆ่าและบริเวณที่ค้นพบทำให้ตำรวจเชื่อว่า นี่อาจจะมาจากฝีมือของคนๆเดียวกัน แต่ก็ไม่สารมารถสืบหาพยานและหลักฐานหาตัวคนผิดมาลงโทษได้...
ต่อมาในเดือนมกราคม 2010 เจ้าหน้าที่เอฟบีไอได้เปิดเผยข้อมูลว่า คนร้ายอาจจะเป็นเจ้าหน้าที่ หรือ อาจจะเป็นตำรวจ และในปี 2011 อดีตรองนายอำเภอชื่อ Fred Atwell
ต่อมาในเดือนมกราคม 2010 เจ้าหน้าที่เอฟบีไอได้เปิดเผยข้อมูลว่า คนร้ายอาจจะเป็นเจ้าหน้าที่ หรือ อาจจะเป็นตำรวจ และในปี 2011 อดีตรองนายอำเภอชื่อ Fred Atwell
เขาถูกตรวจสอบและพบว่าเป็นผู้ต้องสงสัยที่เป็นไปได้หลังจากที่เขาจัดหวยรถปลอมขึ้นมาเพื่อหาเงินบริจาคให้ครอบครัวของเหยื่อ แต่ก็ไม่มีหลักฐานที่จะผูกพันเขาให้เป็นผู้กระทำการฆาตกรรมได้ ดังนั้นคดีนี้ก็ยังคงเป็นคดีปริศนาและฆาตกรก็ยังลอยนวลต่อไป....
มาถึงอันดับที่ 6
อันดับที่ 6 The Freeway Phantom...
ในช่วงต้นปี 1970 นักฆ่าที่รู้จักกันในชื่อ "ไอ้ผีนรกทางด่วน" ได้คร่าชีวิตสาวแอฟริกัน-อเมริกันกว่า 6 รายในกรุงวอชิงตันดีซี เหยื่อรายแรกของมัน ชื่อ Carol Spinks อายุเพียง 13 ปี เธอได้ถูกลักพาตัวไปในขณะที่เดินกลับบ้าน จากการซื้อของในวันที่ 25 เมษายน 1971....
ในตอนเย็นของวันที่ 25 เมษายน 1971 Carol Spinks ถูกพี่สาวขอให้เธอออกมาซื้อของที่ร้าน 7-Eleven ซึ่งตั้งอยู่ครึ่งไมล์ห่างออกไปจากบ้านของเธอเพียงแค่ข้ามพรมแดนในรัฐแมรี่แลนด์ ระหว่างเดินทางกลับบ้านเธอถูกลักพาตัวไป ร่างของเธอถูกพบในอีก 6 วันต่อมาที่บริเวณเขื่อนหญ้าที่อยู่ติดกับทางเหนือของถนน I-295, ประมาณ 1,500 ฟุตทางตอนใต้ของ Suitland Parkway
และในเดือนถัดมา วันที่ 8 กรกฎาคม 1971 Darlenia Johnson ที่อายุได้เพียง 16 ปี ก็ถูกลักพาตัวไปในขณะที่เธอกำลังจะเดินทางไปงานฤดูร้อนที่ศูนย์นันทนาการ 11 วันต่อมาร่างของเธอถูกค้นพบเพียง 15 ฟุตห่างจากจุดที่พบเหยื่อคนแรก....
27 กรกฏาคม 1971 Brenda Crockett อายุ 10 ขวบเธอหลงทางกลับบ้านหลังจากที่เธอถูกใช้ให้ออกมาซื้อของโดยแม่ของเธอ 3 ชั่วโมงหลังจากเธอหายไป โทรศัพท์ก็ดังที่บ้าน และน้องสาวของเธออายุ 7 ขวบก็รับสาย ในขณะที่ครอบครัวของเธอกำลังออกค้นหาเธอในบ้านใกล้เรือนเคียง เธอมีน้ำเสียงที่ดูวิตกและกำลังร้องไห้
"คนขาวมารับฉันและเขากำลังจะมุ่งหน้ากลับไปส่งฉันที่บ้านโดยรถแท็กซี่" เบรนด้าบอกน้องสาวของเธอ และก่อนที่จะวางสาย เธอก็บอกว่าเธอกำลังอยู่ในเวอร์จิเนีย ก่อนที่จะพูดว่า "ลาก่อน" และสายหลุดไป
หลังจากนั้นไม่นานโทรศัพท์ดังอีกครั้งและพ่อของเธอเป็นคนรับสาย เธอพยายามที่จะพูดเหมือนครั้งแรก แต่ยังไม่ทันได้สื่อสารชัดเจน ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนักเดินเข้ามาหาเธอในด้านหลัง เธอบอกเป็นครั้งสุดท้ายว่า "เขาเห็นฉันแล้ว" และสายก็หลุดไป ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาก็พบศพของเธอในสถานที่ที่เห็นได้ชัดเจนใน Baltimore-Washington Parkway ในเขต Prince George's County, Maryland เธอถูกข่มขืนและรัดคอด้วยผ้าพันคอที่ถูกผูกปมรอบคอของเธอ....
Nenomoshia Yates อายุ 12 ขวบกำลังเดินกลับบ้านจากร้านเซฟเวย์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือกรุงวอชิงตันดีซีเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 1971 เมื่อเธอถูกลักพาตัวไปข่มขืนและรัดคอ ร่างของเธอถูกพบภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการลักพาตัวในบริเวณเดียวกับที่พบศพของเหยื่อรายก่อนหน้านี้ จากคดีนี้ทำให้เกิดการขนานขนามเจ้าฆาตกรรายนี้ว่า "ไอ้ผีนรกทางด่วน" ขึ้นมาทันที
หลังจากที่ทานอาหารค่ำกับเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายในวันที่ 15 พฤศจิกายนปี 1971 Brenda Woodward อายุ 18 ปี ก็นั่งรถบัสกลับไปที่บ้านแถว Maryland Avenue ประมาณหกชั่วโมงต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพของเธอถูกแทงและรัดคอในสนามหญ้าใกล้กับทางลาดเข้าเส้นทาง 202 จาก Baltimore–Washington Parkway เสื้อโค้ทของเธอถูกถลกอยู่เหนือหน้าอกของเธอ และในกระเป๋าของเธอปรากฏมีกระดาษโน๊ตที่เขียนเชื่อมโยงถึงเจ้าฆาตกร....
"นี่จะเป็นการประกาศศักดาที่ข้าทำกับพวกผู้หญิงเหล่านั้น"
แน่ะ มีการเขียนท้าทายตำรวจซะด้วย....แหม๋
ซึ่งเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าบันทึกที่เขียนบนกระดาษ ถูกตัดออกมาจากสมุดโรงเรียนของเหยื่อ ซึ่งเจ้าฆาตรกรได้บอกให้เหยื่อเป็นผู้ลงมือเขียนเอง
เหยื่อรายสุดท้ายของเจ้าฆาตกรทางด่วนเกิดขึ้นเกือบหนึ่งปีต่อมา เมื่อวันที่ 5 กันยายน 1972 Diane Williams อายุ 17 ปีได้ทำอาหารค่ำสำหรับครอบครัวของเธอ และก็กำลังจะไปเยี่ยมบ้านแฟนของเธอ ครั้งสุดท้ายที่เห็นเธอมีชีวิต คือหลังจากที่เธอขึ้นรถบัส หลังจากนั้นไม่นานร่างที่ถูกฆ่ารัดคอของเธอถูกค้นพบทิ้งอยู่ข้างทางด่วนเส้นทาง I-295 ถัดไปทางใต้ของอำเภอ
ระหว่างการสืบสวนเจ้าหน้าที่ได้ค้นพบผู้ต้องสงสัยว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกแก็งค์ Green Vega ที่ส่วนใหญ่พวกมันมักจะก่อคดีที่มีลักษณะเดียวกันในวอชิงตัน แต่จนแล้วจนเล่าก็ไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันความผิดกับพวกมันได้...
ในที่สุดคดีก็ยังคงเป็นปริศนา และ "ไอ้ผีนรกทางด่วน" ก็ยังคงลอยนวลมาจนถึงปัจจุบัน.....
โปรดติดตามตอนต่อไปกับ สุดยอดฆาตกรต่อเนื่องที่ยังคงเป็นปริศนาและคงไว้ซึ่งความลึกลับดำมืดจนถึงปัจจุบัน ใน ตอนที่ 2 ตอนจบ!!!
เชิญแสดงความเห็นท่านได้ที่ช่อง Facebook ด้านล่างนะจ้ะ...
รูปบรรดาเหยื่อของมัน...
ในตอนเย็นของวันที่ 25 เมษายน 1971 Carol Spinks ถูกพี่สาวขอให้เธอออกมาซื้อของที่ร้าน 7-Eleven ซึ่งตั้งอยู่ครึ่งไมล์ห่างออกไปจากบ้านของเธอเพียงแค่ข้ามพรมแดนในรัฐแมรี่แลนด์ ระหว่างเดินทางกลับบ้านเธอถูกลักพาตัวไป ร่างของเธอถูกพบในอีก 6 วันต่อมาที่บริเวณเขื่อนหญ้าที่อยู่ติดกับทางเหนือของถนน I-295, ประมาณ 1,500 ฟุตทางตอนใต้ของ Suitland Parkway
และในเดือนถัดมา วันที่ 8 กรกฎาคม 1971 Darlenia Johnson ที่อายุได้เพียง 16 ปี ก็ถูกลักพาตัวไปในขณะที่เธอกำลังจะเดินทางไปงานฤดูร้อนที่ศูนย์นันทนาการ 11 วันต่อมาร่างของเธอถูกค้นพบเพียง 15 ฟุตห่างจากจุดที่พบเหยื่อคนแรก....
27 กรกฏาคม 1971 Brenda Crockett อายุ 10 ขวบเธอหลงทางกลับบ้านหลังจากที่เธอถูกใช้ให้ออกมาซื้อของโดยแม่ของเธอ 3 ชั่วโมงหลังจากเธอหายไป โทรศัพท์ก็ดังที่บ้าน และน้องสาวของเธออายุ 7 ขวบก็รับสาย ในขณะที่ครอบครัวของเธอกำลังออกค้นหาเธอในบ้านใกล้เรือนเคียง เธอมีน้ำเสียงที่ดูวิตกและกำลังร้องไห้
"คนขาวมารับฉันและเขากำลังจะมุ่งหน้ากลับไปส่งฉันที่บ้านโดยรถแท็กซี่" เบรนด้าบอกน้องสาวของเธอ และก่อนที่จะวางสาย เธอก็บอกว่าเธอกำลังอยู่ในเวอร์จิเนีย ก่อนที่จะพูดว่า "ลาก่อน" และสายหลุดไป
หลังจากนั้นไม่นานโทรศัพท์ดังอีกครั้งและพ่อของเธอเป็นคนรับสาย เธอพยายามที่จะพูดเหมือนครั้งแรก แต่ยังไม่ทันได้สื่อสารชัดเจน ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนักเดินเข้ามาหาเธอในด้านหลัง เธอบอกเป็นครั้งสุดท้ายว่า "เขาเห็นฉันแล้ว" และสายก็หลุดไป ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาก็พบศพของเธอในสถานที่ที่เห็นได้ชัดเจนใน Baltimore-Washington Parkway ในเขต Prince George's County, Maryland เธอถูกข่มขืนและรัดคอด้วยผ้าพันคอที่ถูกผูกปมรอบคอของเธอ....
Nenomoshia Yates อายุ 12 ขวบกำลังเดินกลับบ้านจากร้านเซฟเวย์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือกรุงวอชิงตันดีซีเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 1971 เมื่อเธอถูกลักพาตัวไปข่มขืนและรัดคอ ร่างของเธอถูกพบภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการลักพาตัวในบริเวณเดียวกับที่พบศพของเหยื่อรายก่อนหน้านี้ จากคดีนี้ทำให้เกิดการขนานขนามเจ้าฆาตกรรายนี้ว่า "ไอ้ผีนรกทางด่วน" ขึ้นมาทันที
หลังจากที่ทานอาหารค่ำกับเพื่อนร่วมชั้นมัธยมปลายในวันที่ 15 พฤศจิกายนปี 1971 Brenda Woodward อายุ 18 ปี ก็นั่งรถบัสกลับไปที่บ้านแถว Maryland Avenue ประมาณหกชั่วโมงต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพของเธอถูกแทงและรัดคอในสนามหญ้าใกล้กับทางลาดเข้าเส้นทาง 202 จาก Baltimore–Washington Parkway เสื้อโค้ทของเธอถูกถลกอยู่เหนือหน้าอกของเธอ และในกระเป๋าของเธอปรากฏมีกระดาษโน๊ตที่เขียนเชื่อมโยงถึงเจ้าฆาตกร....
"นี่จะเป็นการประกาศศักดาที่ข้าทำกับพวกผู้หญิงเหล่านั้น"
"จับข้าให้ได้สิ แล้วจะข้ายอมรับผิดทุกข้อกล่าวหา"
"ไอ้ผีนรกทางด่วน"
แน่ะ มีการเขียนท้าทายตำรวจซะด้วย....แหม๋
ซึ่งเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าบันทึกที่เขียนบนกระดาษ ถูกตัดออกมาจากสมุดโรงเรียนของเหยื่อ ซึ่งเจ้าฆาตรกรได้บอกให้เหยื่อเป็นผู้ลงมือเขียนเอง
เหยื่อรายสุดท้ายของเจ้าฆาตกรทางด่วนเกิดขึ้นเกือบหนึ่งปีต่อมา เมื่อวันที่ 5 กันยายน 1972 Diane Williams อายุ 17 ปีได้ทำอาหารค่ำสำหรับครอบครัวของเธอ และก็กำลังจะไปเยี่ยมบ้านแฟนของเธอ ครั้งสุดท้ายที่เห็นเธอมีชีวิต คือหลังจากที่เธอขึ้นรถบัส หลังจากนั้นไม่นานร่างที่ถูกฆ่ารัดคอของเธอถูกค้นพบทิ้งอยู่ข้างทางด่วนเส้นทาง I-295 ถัดไปทางใต้ของอำเภอ
ระหว่างการสืบสวนเจ้าหน้าที่ได้ค้นพบผู้ต้องสงสัยว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกแก็งค์ Green Vega ที่ส่วนใหญ่พวกมันมักจะก่อคดีที่มีลักษณะเดียวกันในวอชิงตัน แต่จนแล้วจนเล่าก็ไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันความผิดกับพวกมันได้...
ในเดือนมีนาคมปี 1977 นาย Robert Elwood Askins อายุ 58 ปี ถูกตั้งข้อหาลักพาตัวและข่มขืนผู้หญิง เขามีประวัติศาสตร์อันยาวนานเกี่ยวเนื่องกับความรุนแรงต่อผู้หญิงและได้รับการพิจารณาว่า เขานี่แหล่ะที่น่าจะเป็น "ไอ้ผีนรกทางด่วน" แต่ก็ไม่มีหลักฐานที่จะพบว่า เขามีการเชื่อมโยงกับคดีเหล่านั้น และเขาก็รักษาความบริสุทธิ์ของเขา จนกระทั่งเสียชีวิตในปี 2011...
ในที่สุดคดีก็ยังคงเป็นปริศนา และ "ไอ้ผีนรกทางด่วน" ก็ยังคงลอยนวลมาจนถึงปัจจุบัน.....
โปรดติดตามตอนต่อไปกับ สุดยอดฆาตกรต่อเนื่องที่ยังคงเป็นปริศนาและคงไว้ซึ่งความลึกลับดำมืดจนถึงปัจจุบัน ใน ตอนที่ 2 ตอนจบ!!!
เชิญแสดงความเห็นท่านได้ที่ช่อง Facebook ด้านล่างนะจ้ะ...
จับไม่ได้เลยสักคดี
ตอบลบ