Light Yagami - Death Note

โลกพิศวง!!....ตอน : รวม 10 หลุมประหลาดลึกลับจากทั่วทุกมุมโลก!! ตอนที่ 2 ตอนจบ...

มาต่อกันเลยกับอันดับต่อไป...

อันดับที่ 5 Mount Baldy ’s Mysterious Holes

หลุมลึกลับแห่งเขาบาลดี้...





Mount Baldy หรือแปลเป็นไทยว่า ภูเขาหัวล้าน เป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ในมณฑลซานดิโอ, แคลิฟอร์เนีย, สหรัฐอเมริกามีความยาวประมาณ 12 ไมล์ (19 กิโลเมตร)เป็นที่นิยมของคนในพื้นที่และคนสหรัฐที่จะมาพักผ่อนหย่อนใจ หรือเดินสำรวจ...



 แต่ปีใน 2013 ได้เกิดเรื่องแปลกประหลาดขึ้น เมื่อเด็กชายอายุ 6 ขวบชื่อว่า Nathan Woessner กำลังทำการสำรวจเนินทรายบนภูเขาหัวล้าน ในขณะที่เขากำลังเดินไปนั้น จู่ๆก็เกิดหลุมทรายดูดขึ้นมาอย่างไม่ทันระวังตัว ทำให้เขาถูกดูดลงไปใต้พื้นทรายความลึกกว่า 3 เมตร ...





กว่า 3 ชั่วโมงที่เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำตัวของเขาออกมาจากใต้พื้นทรายได้ เขาถูกนำตัวไปรักษายังโรงพยาบาล โชคยังดีที่เขาปลอดภัย.... 


 






Nathan Woessner ที่ถูกดูดลงใต้โลก



  







นักธรณีวิทยา รู้สึกงงงันกับปรากฏการณ์ที่ภูเขาหัวล้าน ซึ่งเป็นภูมิทัศน์ที่ทำจากทรายซึ่งไม่ได้สร้างอากาศที่มีเงื่อนไขจำเป็นสำหรับการเกิดหลุมยุบ หรือ ทรายดูด ขนาดใช้เรด้าห์ตรวจจับก็ยังไม่พบช่องว่างที่จะทำให้เกิดหลุม แต่มันก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง....



ทางรัฐบาลจึงทำการปิดอุทยาน ห้ามใครเข้าไปยังพื้นที่นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เพื่อความปลอดภัยของชีวิตผุ้คน ที่อาจจะถูกทรายดูดลึกลับมาคร่าชีวิตพวกเขาไป...และจนถึงบัดนี้ นักวิทยาศาสตร์ก็ยังคงสรุปไม่ได้ว่า เจ้าหลุมยุบพวกนี้ มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร.... 





อันดับที่ 4 Devil ' s Sinkhole

หลุมของปิศาจที่รัฐเท็กซัส


 
หลุมของปิศาจ เป็นหลุมขนาดใหญ่ที่ข้างใต้เป็นห้องใต้ดินขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ใน Edwards County รัฐ Texas มีขนาดปากหลุมประมาณ 15 เมตร (50 ฟุต) เบื้องลึกลงไปจะเป็นถ้ำขนาด 106 เมตร (350 ฟุต) ซึ่งมันเป็นที่อยู่อาศัยของค้างคาวมากกว่า 3 ล้านตัว ปัจจุบันนี้ได้เปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว โดยที่เราสามารถเดินทางไปเยี่ยมชมหลุมนี้ได้....

   
ประวัติศาสตร์ของที่นี่ถูกปกคลุมไปด้วยความลึกลับ บ้างก็ว่าถ้ำถูกถล่มโดยพวกนักล่าสมบัติ โดยพบว่าหลุมนี้กำเนิดมายาวนานกว่า 4000-2500 ปีก่อน ต่อมามันถูกใช้เป็นที่พักพิงสำหรับกลุ่มคาวบอยที่กำลังจะเดินทางไปทางทิศตะวันตกบนหลังม้า ประวัติศาสตร์อันยาวนานของที่นี่ถูกทำลายลงเมื่อผู้ผลิตปุ๋ยแอมโมเนียเริ่มเข้ามาเก็บเกี่ยวขี้ค้างคาวจากในถ้ำ ซึ่งได้ทำถ้ำเกิดความเสียหาย และหลักฐานหลายๆอย่างได้ถูกทำลายลงไป....






ไปต่อกันที่อันดับต่อไป...

อันดับที่ 3 The Sawmill Sink

อ่างล้างมือของโรงเลื่อย แห่ง บาฮามาส





The Sawmill Sink หรือ แปลเป็นไทยแบบตรงๆว่า "อ่างล้างมือของโรงเลื่อย" เป็นหลุมสีน้ำเงินอีกหลุมหนึ่งที่ถูกค้นพบในบาฮามาส โดยมมันมีความสำคัญทางวิทยาศาสตร์มากกว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เพราะมันเป็นที่ตั้งของการขุดค้นทางโบราณคดีที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์ในระยะตลอด 1,000 ปีที่ผ่านมา....

   
ภาพแสดงถึงซากที่ค้นพบและสภาพใต้หลุม

น่าแปลกที่หลุมแห่งนี้ แม้จะเป็นหลุมบนพื้นดินแต่มันกลับไม่เคยแห้งเลยแม้สักปีเดียว โดยที่มันจะมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา แล้วหลุมก็เต็มไปด้วยน้ำอยู่เสมอ ซึ่งทำให้มันสามารถรักษาซากกระดูกที่ถูกซ่อนตัวอยู่ที่นั่น...


ซากฟอสซิลที่พบมี ตั้งแต่ซากของเต่ายักษ์ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์คิดว่ามันไม่ได้อาศัยอยู่ในพื้นที่เช่นเดียวกับ สัตว์ประเภทอื่นๆในพื้นที่นี้ และแม้แต่ซากของพืชสีเขียวที่มันยังเก็บคลอโรฟิลอย่างสมบูรณ์เอาแบบไว้
 

และที่น่าสนใจมากที่สุด ก็คือซากของจระเข้ยักษ์ที่นักวิจัยเชื่อว่ามันถูกฆ่าตายโดยคนในพื้นที่....



หลุมสีฟ้าแห่งนี้ยังถือว่า เป็นที่เก็บสะสมซากของบรรดาสิ่งมีชีวิตที่เก่าแก่ที่สุดของบาฮามาสมากว่า 1,050 ปีเอาไว้ ...





น่าลงไปแวกว่ายดีแฮะ อิอิ...


อันดับที่ 2  The Black Hole Of Andros

หลุมดำแห่งอันดรอส ที่ บาฮามาส


ห่างออกไปประมาณ 100 กิโลเมตรจากเมืองที่แออัดของ Nassau เราจะพบกับพื้นที่ที่ถือได้ว่า เป็นแหล่งของชั้นหินปูนที่แสนจะลึกลับที่สุดของโลก.....




ภาพหลุมอื่นๆที่พบในพื้นที่เกาะ บาฮามาส...


 ที่รู้จักกันดีที่สุดและประทับใจมากที่สุดในพื้นที่แห่งนี้ก็คือ หลุมดำแห่งอันดรอส 1 ในบรรดาหลุมลึกใต้ทะเลของบาฮามาส...
 
ซึ่งมันถูกค้นพบครั้งแรกในปี 1985 จากเครื่องบินของคนในภาคใต้เกาะ Andros โดยหลังจากการบินผ่านตรงนี้ พวกเขาสังเกตเห็นหลุมต่างๆเต็มไปหมดทั่วทั้งพื้นที่ แถมยังมีน้ำสีดำผิดปกติ ซึ่งคาดว่าพวกมันน่าจะเป็นหลุมอุกกาบาต....


หลุมดำของอันดรอสที่ตั้งอยู่บนเกาะทางตอนใต้ของอันดรอสในบาฮามาส มันจะมีสีของน้ำทะเลที่แตกต่างจากหลุมอื่นๆ โดยมันจะมีสีม่วงที่เข้มมาก นั่นอาจจะเป็นเพราะความลึกของมัน ที่ลึกประมาณ 18 เมตร (60 ฟุต) ลงไปใต้หลุม ยังมีความหนาแน่นของบรรดาแบคทีเรียที่ลอยระหว่างชั้นบนของชั้นออกซิเจน และลึกลงไปใต้หลุมที่ไม่มีออกซิเจนอยู่เลยแม้แต่น้อย...

 




เกาะประกอบไปด้วยโคลนลึก ดังนั้นจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสำรวจหลุมดำโดยไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์โดยเฉพาะเฮลิคอปเตอร์ มันได้รับการสำรวจครั้งแรกโดยนักวิทยาศาสตร์และนักดำน้ำที่ชื่อ Steffi Schwabe ซึ่งเป็นครั้งแรกที่พวกเขาจะดำลงไปในชั้นที่มีแบคทีเรียเข้มข้นมาก โดยที่นักดำน้ำคนหนึ่งอธิบายว่า เมื่อพวกเขาว่ายน้ำลึกลงไป ภายใต้นั้น พบว่าเป็นชั้นบางๆ ของน้ำที่ดูชัดเจนและพอผ่านลงไปในชั้นสีม่วงของน้ำอีก พวกเขาก็อธิบายว่า น้ำข้างใต้นี้มีสภาพเหมือนเจลลี่....


ภาพการเปรียบเทียบขนาดของหลุมกับเครื่องบินโดยสาร

   
เป็นที่น่าแปลก ที่น้ำมีระดับสูงมากของไฮโดรเจนซัลไฟด์ซึ่งเป็นพิษ และยังมีแบคทีเรียมากมาย และมันมีผลในการรักษาสภาพน้ำโดยที่ไม่เปลี่ยนแปลงสภาพมากว่า 3.5 ล้านปี....


และก็มาถึงอันดับที่ 1....


อันดับที่ 1 The Son Doong Cave

ปากหลุมถ้ำซานดุง ถ้ำยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก!




สุดท้าย...สุดอลังการกับ "Son Doong" ที่ได้ชื่อว่าเป็น "ถ้ำยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก" ถูกค้นพบเมื่อปี 2009 อยู่ที่ เมือง"กง บินห์"ในประเทศเวียดนาม การค้นพบถ้ำดังกล่าวสร้างความตื่นตะลึงไปทั่ววงการวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมเลยทีเดียว....



ภาพเปรียบเทียบและแผนที่ภายในถ้ำ

นอกจากป่าอันเขียวชะอุ่ม ยังมีน้ำตกหลายแห่ง หินงอกและหินย้อยขนาดยักษ์ รวมทั้งแม่น้ำใหญ่ สูงกว่า 80 เมตร กว้าง 80 เมตรมีระยะทางยาวไม่น้อยกว่า 4.5 กิโลเมตรทั้งนี้บางตอนของโถงมีขนาดสูง 140 เมตร กว้าง140 เมตรสามารถสร้างตึกระฟ้าสูงขนาด 40 ชั้นได้อย่างสบาย เหล่านักท่องเที่ยวต่างตื่นเต้นกับการให้เห็นถ้ำแห่งนี้อย่างมาก และบอกว่าพวกเขาได้ผจญภัยกับสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก....














โห...อลังการสวยงามมากมาย จะมีบุญไปเที่ยวนอนค้างกางเต็นสักคืนไหมนะ อยู่ใกล้ๆบ้านเรานี่เอง....


ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านครับ ไม่พบกันใหม่โอกาสหน้า สวัสดีจ้ะ....

Thank CR : listverse.com
Thank CR : wikipedia.org 

เชิญแสดงความเห็นท่านได้ที่ช่อง Facebook ด้านล่างนะจ้ะ...





โลกพิศวง!!....ตอน : รวม 10 หลุมประหลาดลึกลับจากทั่วทุกมุมโลก!! ตอนที่ 1

ในพันทิปผมเคยเขียนถึงอันดับหลุมลึกจากทั่วโลกไปแล้วหนหนึ่ง แต่อันนั้นมันหลุมที่มาจากฝีมือมนุษย์ซะส่วนใหญ่... มาหนนี้เราลองไปชมหลุมที่เกิดขึ้นจากทั้งน้ำมือมนุษย์ แล้วก็....เอิ่ม... อะไรดี เกิดจากธรรมชาติ หรือ บางสิ่ง ซัมติง...ทำขึ้น ก็อาจจะเป็นไปได้....

เอาเป็นว่า ฝอยมากก็มากเรื่อง เราไปชมพร้อมกันเลยดีกว่า....Let 's Go!! OK!!


ชมคลิปแบบย่อๆได้ที่นี่!!
 
(เป็นคลิปแรกที่ทดลองทำ ผิดพลาดประการใด พูดไม่ชัดยังไง ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย... แฮ่ๆ)



มากันที่อันดับที่ 10 กันก่อนเลย หลุมนี้เพิ่งถูกค้นพบมาเมื่อไม่นานมานี้เอง....


อันดับที่ 10 Siberia’s Holes

หลุมลึกลับที่ไซบีเรีย


เมื่อเร็วๆนี้มีการตรวจพบ หลุมในไซบีเรียทั้งหมด 3 หลุม ที่มีขนาดประมาณ 50-100 เมตร (165-330 ฟุต) จากการสำรวจหลุมแรกพบว่ามันมีทะเลสาบอยู่ที่ด้านล่างของมัน และอันที่สอง พบห่างออกไปจากหลุมที่พบเป็นหลุมแรกเป็นประมาณ 15 เมตร (50 ฟุต) ส่วนหลุมที่สามพบโดยบังเอิญโดยคนเลี้ยงกวางเรนเดีย ซึ่งเป็นหลุมรูปทรงกรวยเกือบจะสมบูรณ์แบบ ความกว้างปากหลุมประมาณ 4 เมตร (13 ฟุต) และลึกประมาณ 60-100 เมตร (195-330 ฟุต)


  หลุมที่ 1

จากการเข้าไปสำรวจพบว่า หลุมทั้งหมดน่าจะเกิดจากการระเบิดขึ้นมาจากใต้พื้นโลก บางคนเชื่อว่ามันมีความเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมก๊าซที่แพร่หลายในพื้นที่ แต่ทว่าหลุมทั้งหมดกลับอยู่ห่างไกลจากกลุ่มผู้ขุดก๊าซ ทฤษฐีนี้จึงถูกตีตกไปโดยนักวิทยาศาสตร์ นอกจากนั้นยังมีทฤษฎีอื่นๆ เช่น เป็นการทดลองอาวุธของทางรัฐบาล....และมาจากฝีมือ มนุษย์ต่างดาว


หลุมที่ 2


แต่ทฤษฐีที่ได้รับการเชื่อถือมากที่สุด โดนกลุ่มนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า มันน่าจะมาจากแรงดันจากใต้พื้นโลก ซึ่งมาจากการสะสมของซากพืชและซากสัตว์มาเป็นเวลานาน จึงทำให้เกิดก๊าซบางอย่าง ดันตัวจากใต้พื้นโลกจนทะลุพื้นดินขึ้นมากลายเป็นหลุมเหล่านี้....


 


หลุมล่าสุดที่เพิ่งถูกค้นพบ...

แต่ชาวบ้านแถบนั้นกลับยืนยันว่า พวกเขาเห็น จานบิน บินออกมาจากบริเวณนั้น จึงเกิดทฤษฐีที่ว่า มันอาจจะมาจากการมาสร้างฐานใต้โลกของพวกต่างดาว แล้วพวกมันก็บินออกมาจากหลุมนั้น นั่นเอง...



อันดับที่ 9 The Kola Superdeep Borehole


โครงการเจาะพื้นพิภพโลกที่รัสเซีย


 เป็นผลของโครงการการขุดเจาะทางวิทยาศาสตร์ของสหภาพโซเวียตในอดีต โครงการนี้ได้พยายามเจาะลงไปในเปลือกโลกให้ลึกที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ การเจาะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 24 พฤษภาคม ค.ศ. 1970 ที่ คาบสมุทร Kola โดยใช้เครื่องเจาะ Uralmash-4E และภายหลังได้เปลี่ยนเป็นเครื่องเจาะ Uralmash-15000 การเจาะได้แตกแขนงออกเป็นหลายช่องจากช่องกลาง แขนงที่มีความลึกที่สุดคือ SG-3 ได้เจาะเสร็จสิ้นเมื่อปีค.ศ. 1989 มีความลึก 12,262 เมตร (7.6 ไมล์) และได้กลายเป็นหลุมที่มีความลึกมากที่สุดที่ถูกสร้างขึ้นโดยมนุษย์



 โครงการนี้ถูกเสนอขึ้นครั้งแรกในปีค.ศ. 1962 และดูแลรับผิดชอบโดย Interdepartmental Scientific Council for the Study of the Earth's Interior and Superdeep Drilling สถานที่ขุดเจาะได้ถูกเลือกในปีค.ศ. 1965 ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสหภาพโซเวียต ห่างจากเมือง Zapolyarny ไปทางตะวันตกเป็นระยะทาง 10 กิโลเมตร (6 ไมล์)

ในตอนแรกได้กำหนดความลึกเป้าหมายไว้ที่ 15,000 เมตร (49,210 ฟุต) เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ค.ศ. 1979 ก็ได้ทำลายสถิติโลกที่เป็นของหลุม Bertha Rogers ใน เคาน์ตีวาชิตา รัฐโอคลาโฮมา (9,583 เมตร (31,440 ฟุต) 




นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมและถ่ายภาพเป็นที่ระลึก

ในปีค.ศ. 1983 ก็ได้เจาะผ่านระดับความลึก 12,000 เมตร (39,370 ฟุต) แล้วการขุดเจาะก็หยุดลงประมาณ 1 ปีเพื่อเฉลิมฉลอง ซึ่งช่วงการหยุดนี้อาจมีส่วนในเหตุการณ์ในวันที่ 27 กันยายน ค.ศ. 1984 หลังจากที่เจาะไปได้ 12,066 เมตร (39,587 ฟุต) ท่อเจาะความยาว 5,000 เมตร (16,400 ฟุต) ก็ได้ขาดออกจึงถูกทิ้งเอาไว้ใต้ดิน แล้วตัดสินใจเริ่มต้นเจาะใหม่จากความลึก 7,000 เมตร (22,970 ฟุต) หลุมได้ไปถึงความลึก 12,262 เมตร (40,230 ฟุต) 


ในปีค.ศ. 1989 และในปีนั้นได้คาดการณ์ไว้ว่าจะไปถึงความลึก 13,500 เมตร (44,290 ฟุต) ภายในสิ้นปีค.ศ. 1990 และ 15,000 เมตร (49,210 ฟุต) ในปีค.ศ. 1993 อย่างไรก็ตามเนื่องจากบริเวณและความลึกที่เจาะไปถึงมีอุณหภูมิสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ คือ 180°C (356°) แทนที่จะเป็น 100°C (212°F) จึงคิดว่าการเจาะลึกลงไปกว่านี้คงเป็นไปไม่ได้และการขุดเจาะก็ได้หยุดลงในปีค.ศ. 1992 จากอุณหภูมิที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามความลึกที่เพิ่มขึ้น การเจาะไปถึงความลึก 15,000 เมตร (49,210 ฟุต) หมายถึงการต้องทำงานที่อุณหภูมิที่อาจจะสูงถึง 300°C (572°F) ซึ่งที่อุณหภูมิสูงระดับนั้น หัวเจาะจะไม่สามารถทำงานได้อีกต่อไป...
 
หลุมที่ Kola ได้เจาะลึกเข้าไปในแผ่นทวีป Baltic ประมาณ 1/3 ของความหนาทั้งหมดที่คาดว่าหนาประมาณ 35 กิโลเมตร (22 ไมล์) ทำให้พบหินที่มีอายุ 2.7 พันล้านปีที่ก้นหลุม โครงการนี้ได้กลายเป็นสถานที่สำหรับการศึกษาเรื่องธรณีฟิสิกส์อย่างกว้างขวาง รวมถึงการศึกษาโครงสร้างของ Baltic Shield, seismic discontinuities และ thermal regime ในเปลือกโลก, ส่วนประกอบทางฟิสิกส์และเคมีของเปลือกโลกในระดับลึกและการเปลี่ยนแปลงจากเปลือกโลกชั้นบนไปสู่เปลือกโลกชั้นล่าง, lithospheric geophysics และเพื่อสร้างและพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับการศึกษาด้านธรณีฟิสิกส์ในระดับลึก



สำหรับนักวิทยาศาสตร์ หนึ่งในการค้นพบที่น่าตื่นเต้นจากหลุมนี้คือการพบว่าการเปลี่ยนแปลงของ seismic velocities ไม่ได้เกิดขึ้นที่บริเวณที่เปลี่ยนจากหิน แกรนิต เป็นหิน บะซอลต์ ตามที่ Jeffreys ได้ตั้งสมมติฐานไว้ แต่เกิดขึ้นที่บริเวณล่างสุดของชั้น metamorphic rock ที่อยู่ลึกลงไปประมาณ 5 ถึง 10 กิโลเมตรจากพื้นผิว หินในบริเวณนั้นมีรอยแตกมากมายและชุ่มไปด้วยน้ำ ซึ่งน่าประหลาดใจ เนื่องจากน้ำที่พบนี้ไม่เหมือนน้ำที่พื้นผิวโลกและต้องมาจากแร่ธาตุที่อยู่ลึกลงไปในเปลือกโลกและไม่สามารถขึ้นไปถึงพื้นผิวโลกได้เนื่องจากถูกกั้นโดยชั้นของหินที่ไม่ยอมให้น้ำผ่านไปได้

การค้นพบที่ไม่คาดคิดอีกอย่างหนึ่งคือก๊าซไฮโดรเจนปริมาณมาก และมีโคลนไหลออกมาจากช่องซึ่งถูกอธิบายว่าการเดือดด้วยไฮโดรเจน....



ภาพเปรียบเทียบหลุมลึกต่างๆที่เจาะลงไปโดยน้ำมือของมนุษย์

ปัจจุบันสถานที่ขุดเจาะนี้ถูกควบคุมโดย State Scientific Enterprise on Superdeep Drilling and Complex Investigations in the Earth's Interior (GNPP Nedra) เรียกว่า Deep Geolaboratory ปัจจุบันหลุมที่ยังมีกิจกรรมและลึกที่สุดคือ SG-5 มีความลึก 8,578 เมตร (28,143 ฟุต) และมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 214 มิลลิเมตร (8.425 นิ้ว)

สหรัฐอเมริกาได้เริ่มโครงการที่คล้ายกันในปีค.ศ. 1957 เรียกว่าโครงการ Mohole ซึ่งตั้งใจจะเจาะเปลือกโลกที่ตื้นที่อยู่ใต้มหาสมุทรแปซิฟิก นอกชายฝั่งเม็กซิโก อย่างไรก็ตาม หลังจากเริ่มเจาะไปได้ไม่นาน โครงการนี้ก็ถูกยกเลิกในปีค.ศ. 1966 เนื่องจากขาดงบประมาณ "ความล้มเหลว"ครั้งนี้ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจของความสำเร็จของ Deep Sea Drilling Project, Ocean Drilling Program, และ Integrated Ocean Drilling Program ซึ่งเป็นโครงการในปัจจุบัน...

 โห...คนเรานี่ก็ทำเรื่องเหลือเชื่อได้หลายอย่างเน้าะ...



อันดับที่ 8 The German Continental Deep Drilling Program

โครงการเจาะพื้นพิภพและวัดแผ่นดินไหวจากใต้โลก ที่เยอรมัน


 The German Continental Deep Drilling Program หรือชื่อในภาษาเยอรมันว่า German Kontinentales Tiefbohrprogramm der Bundesrepublik Deutschland เรียกย่อๆว่า KTB เป็นโครงการการขุดเจาะทางวิทยาศาสตร์ที่เริ่มต้นในปี 1987-1995 ใกล้กับเมือง Windischeschenbach, Bavaria หลุมนี้มีความลึกถึง 9,101 เมตร ซึ่งเจาะลงไปในเปลือกโลก



 โครงการนี้ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลกลางกระทรวงวิจัยของเยอรมันกว่า 270,000,000 ยูโร โดยเน้นประโยชน์เพื่อการทำ เหมืองแร่ และด้านการวิจัยพลังงาน หลังจากที่โครงการขุดเจาะนี้ได้เลิกโครงการไป มันก็ได้รับการนำกลับมาใช้ใหม่โดยเอาไว้เพื่อการวิจัย โดยศูนย์ธรณีศาสตร์ของเยอรมัน เพื่อการติดตั้งหอดูดาว และเอาไว้วัดแผ่นดินไหวที่ระดับความลึกที่สุด  




โดยโครงการนี้เริ่มตั้งแต่ในปี 1996 และในปี 2001 มันก็ได้รับตำแหน่งให้เป็นแหล่งขุดเจาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก และในปัจจุบันก็ยังใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกด้วย....




อันดับที่ 7 Dead Sea Sinkholes

หลุมยุบสุดสยองที่ทะเลสาปเดดซี


จะมีใครรู้บ้างว่า วันหนึ่งจะเกิดหลุมยุบปรากฏรอบทะเลเดดซี ซึ่งมันมีจำนวนมหาศาลถึง 2,500 หลุม!! มันเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1970 กว่า 1000 หลุม และในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา มันก็เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมันกำลังสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของธรรมชาติที่กำลังเกิดขึ้นบนโลก





ทะเลสาบเดดซีเป็นทะเลสาบน้ำเค็มขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ระหว่างพรมแดนของจอร์แดนและอิสราเอล ทะเลสาบเดดซีมีพื้นที่ราว 810 ตารางกิโลเมตร โดยมีความลึกเฉลี่ยที่ 120 เมตร และมีจุดที่ลึกที่สุดอยู่ที่ 330 เมตร ในขณะที่พื้นที่ตั้งของทะเลสาบเดดซีก็ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลถึง 423 เมตร ซึ่งถือเป็นจุดที่มีระดับต่ำที่สุดในโลก ดังนั้นหากวัดจากพื้นที่ลึกที่สุดของทะเลสาบแห่งนี้ก็จะอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลราว 800 เมตร ทะเลสาบเดดซีถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนโดยมีแหลมอัลลิซานกั้นกลาง ทะเลสาบทางตอนเหนือกินพื้นที่ราว 3 ใน 4 ซึ่งมีความลึกและเค็มกว่า....


นอกจากนั้น ที่นี่ยังเป็นทะเลสาบแบบปิด คือไม่มีทางไหลออกของน้ำ โดยได้รับน้ำจากต้นน้ำ เพียงแหล่งเดียวเท่านั้นคือแม่น้ำจอร์แดน เมื่อ การเกิดการระเหยอย่างมากของทะเลสาบเดดซี ส่งผลให้ความเข้มข้นในทะเลสาบดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ เพราะนอกจากระเหยจะทำให้ทะเลสาบเดดซีเข้มข้นมากขึ้นแล้ว น้ำที่ไหลมาจากแม่น้ำจอร์แดนก็ยังคงอุดมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ เช่น โซเดียมและแมกนีเซียม เมื่อไหลลงมาก็จะทำปฎิกริยากับน้ำพุร้อนในทะเลสาบเดดซีจึงเป็นปัจจัยเกื้อ หนุนต่อความเค็มของทะเลแห่งนี้....




ทะเลสาบ เดดซี ตั้งอยู่ในพื้นที่ทะเลทราย ที่สภาพภูมิอากาศจะมีลักษณะหนาวจัดในตอนกลางคืนและร้อนจัดในตอนกลางวัน โดยในบางปีทะเลสาบเดดซีจะมีอุณภูมิสูงถึง 51 องศาเซลเซียส อีกทั้งมีปริมาณน้ำฝนตกลงในพื้นที่เพียงเล็กน้อยเพียงแค่ราว 65 มิลลิเมตรต่อปี จาก อากาศที่ร้อนจัดและมีฝนน้อยนี้เองที่ทำให้ระดับน้ำจากทะเลสาบเดดซีค่อยๆ ระเหิดระเหยแห้งขอดลงทุกปี โดยพบว่าในปัจจุบัน ระดับน้ำในทะเลสาบลดลงเฉลี่ย 1 เมตรต่อปี ในบางจุดน้ำแห้งจนกระทั่งมองเห็นก้นทะเลสาบ


ทะเลเดดซี เป็นน้ำที่ไหลมารวมกันจากแม่น้ำจอร์แดน และในทุกๆปี น้ำที่ไหลลงไปก็เริ่มน้อยลงไปเรื่อยๆ เพราะถูกดูดนำไปใช้ในทางอุตสาหกรรมและครัวเรือนซึ่งก็น่าจะเป็นสาเหตุของการเกิดหลุมยุบ พร้อมกับการปิดกิจการของบรรดารีสอร์ทและโรงแรมที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่รอบๆทะเลสาบ.....



เนื่องด้วยปริมาณน้ำจืดที่ลดลง น้ำเค็มจากทะเลจึงเริ่มไหลเข้าไปยังชั้นใต้ดินของแผ่นดิน และด้วยปริมาณของเกลือที่สะสมมากขึ้นๆ จึงทำให้แผ่นดินเกิดการยุบตัว....

สถานที่แห่งนี้ ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างมหาศาล สำหรับผู้ที่ทำบุญทางศาสนาหรือหวังที่จะได้รับการเยียวยาโดยน้ำลึกลับของที่นี่ แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นสถานที่อันตราย ที่ใครก็ตามที่ย่างก้าวเข้ามาอาจจะถูกมันดูดลงไปยังพื้นพิภพได้ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง....


  


อันดับที่ 6 Dean’s Blue Hole

ดีน บลู โฮล หลุมสีฟ้าของปีศาจที่ บาฮามาส



ที่นี่คือ หลุมสีฟ้าในทะเลที่ลึกที่สุด ซึ่งเป็นหลุมที่อยู่ใต้น้ำ ที่ถูกค้นพบในบาฮามาส มีระดับความลึกถึง 202 เมตร (663 ฟุต) หลุมนี้ลึกมากกว่าสองเท่ากว่าหลุมลึกสีฟ้าอื่นๆ มันจึงเป็นที่ชื่นชอบของนักดำน้ำทะเลลึกมืออาชีพที่ต่างพากันมาสัมผัสกับที่นี่....

  
ในปี 2010 William Trubridge บันทึกการดำน้ำของเขาในความลึกระดับ 101 เมตร (331 ฟุต) โดยที่เขาได้ลงไปในหลุมนี้ โดยที่ไม่มีถังออกซิเจนหรืออุปกรณ์อื่นๆ และต่อมามีนักดำน้ำ ที่มาจาก Brooklyn ได้เสียชีวิตจากการพยายามที่จะทำลายสถิติในปี 2013 หลังจากที่เขาดำลงไปใต้น้ำนานกว่าสามนาทีครึ่ง เขาก็หมดสติและเสียชีวิตคาหลุม...      สยองเลย....





ตามตำนานเล่าว่า มันเป็นหลุมที่ขุดขึ้นมาโดยปิศาจ และมันจะคอยลากเอาผู้ที่สัญจรผ่านไปมาในทะเลลงไปสู่ความตายในก้นหลุม แต่กระนั้นมันก็ไม่ทำให้เกิดความกลัวแก่นักดำน้ำจากทั่วโลกแต่อย่างใด ในทุกๆปีก็มักจะมีนักดำน้ำมาแวะเวียนดำเล่นอยู่ที่นี่เสมอมา....


ภาพวาดแสดงถึงภายในหลุม...



 ดูไปดูมาก็น่าลงไปแวกว่ายภายในเหมือนกันเนอะ ต้องทำใจก่อนลงไปนานพอสมควรทีเดียวนะ กลัวมีสัตว์ประหลาด ฮ่าๆๆ....

โปรดติดตามอันดับที่เหลือได้ใน ตอนที่ 2 ครับ.... 

เชิญแสดงความเห็นท่านได้ที่ช่อง Facebook ด้านล่างนะจ้ะ...